เบิ้ล ปทุมราช กล่าวว่า "ครอบครัวผมยึดหลักความพอเพียงมาตลอดครับ ด้วยความที่เราเป็นครอบครัวเกษตรกรรม ทำไร่ทำนา พ่อกับแม่จะสอนตลอดว่าเราต้องอยู่อย่างพอดีกับฐานะของเรา และถึงแม้ว่าผมจะมีโอกาสได้เข้ามาเป็นศิลปิน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมีรายได้นำมาช่วยเหลือพ่อแม่ แต่บ้านเราก็ยังคงยึดอาชีพชาวนาอยู่เหมือนเดิม พร้อมได้นำแนวคิดเกษตรแบบผสมผสานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในที่ดินของที่บ้านที่มีอยู่ครับ"
กุ้ง สุธิราช กล่าวว่า "แม้ว่าผมจะเติบโตมาในครอบครัวลิเก แต่ทั้งพ่อและแม่ก็ได้ปลูกฝังคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาโดย ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ครอบครัววงศ์เทวัญได้สูญเสียคุณพ่อชัยณรงค์ แต่ชีวิตของเราต้องดำเนินต่อไป ผมและครอบครัวจึงได้เดินหน้าทำความดีตามคำสอนของพ่อ ด้วยการสร้าง "แพของพ่อ" ณ วัดวิหารทอง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อทดแทนแพเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ให้เป็นที่สำหรับทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงครับ"
เปอร์-วิกรม เสริมว่า "หลังจากที่ผมได้มีโอกาสร่วมโครงการ "เดิน ทาง พ่อ" เพื่อร่วมฉลองในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ออกเดินทางไปเรียนรู้ประสบการณ์ตรง ตามรอยพระราชดำริและพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ 9 จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมได้สัมผัสถึงพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ท่านได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น และเป็นประสบการณ์ที่มีค่า เป็นพลังในการมุ่งมั่นพัฒนาทำความดีตามคำสอนของพ่อหลวงต่อไปครับ"
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit