ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) ที่ 'BB(tha)’

21 Sep 2017
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) แก่บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ที่ 'BB(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'B(tha)'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTBST สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทเองซึ่งพิจารณาจากเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยของบริษัทที่มีขนาดเล็กและสถานะทางการเงินที่อ่อนแอโดยเฉพาะระดับเงินกองทุนที่อยู่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ทางการกำหนดไม่มากนักและสถานะสภาพคล่องและการระดมเงินกู้ยืมที่อาจอ่อนแอลง นอกจากนี้อันดับเครดิตยังได้สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่เชื่อว่าการดำเนินงานโดยรวมและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร

ผู้บริหารและกลยุทธ์ของบริษัทเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการพิจารณาอันดับเครดิต โดยการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในปี 2559 ส่งผลให้แนวโน้มกลยุทธ์และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทสามารถกลับมามีกำไรหลังจากที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 9 ปี อย่างไรก็ตามความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังมีความคงผันผวนมากกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์โดยรวมเนื่องจากบริษัทมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยขนาดเล็ก ฟิทช์เชื่อว่าแม้ฐานะเงินทุนในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่อ่อนแอเมื่อเทียบกับโครงสร้างความเสี่ยงของบริษัท แต่น่าจะสามารถสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าได้ เนื่องจากการเติบโตของสินทรัพย์ของบริษัทน่าจะยังอยู่ในระดับปานกลางและความสามารถในการทำกำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้น

ฟิทช์คาดว่า KTBST จะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นในด้านการระดมเงินกู้ยืมและสภาพคล่องจากการที่บริษัทจะต้องกู้ยืมเงินมากขึ้นเพื่อขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าความเสี่ยงดังกล่าวน่าจะยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้เนื่องจากบริษัทมีนโยบายที่จะจำกัดสัดส่วนเงินกู้ยืมที่ 1 เท่าต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและมีวงเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิช์เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อทดแทนตราสารหนี้ที่ครบกำหนด (Refinancing Risk)

KTBST มีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีขนาดเล็ก โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยเพียงประมาณ 1% แม้ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทอาจปรับตัวดีขึ้นบ้างแต่ยังคงต่ำกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ได้รับการจัดอันดับโดยฟิทช์

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

การปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของฐานะเงินทุน ความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องอาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอันดับ

ฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่อันดับเครดิตจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับในระยะสั้นนั้นมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากบริษัทยังคงมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ขนาดเล็กและโครงสร้างทางธุรกิจและฐานะการเงินที่ยังคงอ่อนแอ การมีโครงสร้างรายได้ที่กระจายตัวมากขึ้นและการปรับตัวดีขึ้นของฐานะทางการเงินโดยเฉพาะด้านสภาพคล่องและฐานะเงินทุนน่าจะส่งผลในเชิงบวกต่ออันดับเครดิต

รายละเอียดทั้งหมดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:

  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวให้อันดับที่ 'BB(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นให้อันดับที่ 'B(tha)'