สุรศักดิ์ ไตรทาน รองผู้ว่าการทรัพยากรบุคคล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า หนึ่งในแผนการดำเนินงานภายใต้ นโยบาย กฟภ.4.0 ที่มุ่งพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี คือ การผลักดันประเทศไทยสู่อนาคตการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพหรือสมาร์ท เอเนอร์ยี่ และสนับสนุนการพัฒนา สมาร์ท ซิตี้ ตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล กฟภ.จึงได้สนับสนุนการจัดงาน Thailand Lighting Fair 2017 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเตรียมจัดสร้างบูธนิทรรศการบนพื้นที่ 180 ตารางเมตร ให้สอดคล้องกับธีมของการจัดงานได้แก่ Smart City. Safe City. โดยครอบคลุมการประชาสัมพันธ์โครงการสำคัญต่างๆ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนทั่วไปรู้จักและเข้าใจภารกิจ และการดำเนินโครงการสำคัญของกฟภ. ที่ส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตามนโยบาย กฟภ.4.0 โดยมุ่งเน้นไปที่โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) การประหยัดพลังงาน (Energy Saving) และพลังงานทดแทน (Renewable Energy) อาทิเช่น PEA HiVE Platform เป็นแพลตฟอร์มระบบบริหารและจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ มีพื้นที่ให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการเพื่อประหยัดพลังงานสำหรับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม รวมทั้ง จัดแสดงโซลาร์ รูฟท็อป ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา อาคาร โรงงาน หรือที่อยู่อาศัย เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง เป็นต้น
นอกจากนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เตรียมจัดการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตร 4 หัวข้อ ได้แก่ 1.มาตรฐานการติดตั้ง Solar Rooftop และการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า 2.PEA HiVE Platform (ระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะ ของกฟภ.) 3.มาตรฐานการติดตั้ง EV Charger รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 4. การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า (Energy Management) ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างมาก ดังนั้นในปีนี้จึงได้เพิ่มเติมหลักสูตรเพื่อรองรับการพัฒนาและใช้พลังงานในอนาคตเพิ่มขึ้น
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีความมุ่งหวังที่จะผลักดันให้การจัดงานครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและประเทศ อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งต้องการผลักดันให้เป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจไฟฟ้าแสงสว่างและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
พาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของงาน Thailand Lighting Fair 2016 มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 8,298 รายจาก 32 ประเทศ มีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้าจำนวน 370 บูธ เป็นบทพิสูจน์ศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่างของอาเซียนและในปีนี้ ดิ เอ็กซ์ซิบิส ร่วมกับเมสเซ่ แฟรงเฟิร์ต โดยได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงกำหนดจัดงาน Thailand Lighting Fair 2017 ขึ้นในวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ฮอลล์ 102-104 ไบเทค บางนา
"ในปีนี้ มีการขยายโซนแสดงเทคโนโลยีระบบอาคาร หรือ Building Zone ตามแนวงาน light + building ของเมสเซ่ แฟรงเฟิร์ตที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศเยอรมนี และจัดพร้อมกับงาน Secutech Thailand 2017 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะมีผู้ร่วมแสดงสินค้าถึง 500 บริษัท และจะมีผู้เข้าชมงานถึง 15,000 รายจาก 40 กว่าประเทศ ตลอด 3 วันของการจัดงานซึ่งครอบคลุมการบริหารเมืองทั้งด้านการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ความปลอดภัย และระบบอาคาร จึงเป็นที่มาของแนวคิดร่วม Smart City. Safe City. หรือเมืองอัจฉริยะและปลอดภัย พร้อมการสัมมนาจากวิทยากรชั้นนำจากทั้งในและต่างประเทศ อาทิ การสัมมนาในเรื่องการออกแบบแสงจากนักออกแบบแสงชื่อดัง Mr. Kaoru Mende และ Mr. Martin Klaasen การสัมมนาในด้านเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะจากผู้กำหนดมาตรฐาน KNX การจัดแสงไฟเสริม ฮวงจุ้ย และเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ" พาขวัญ กล่าว
อัศพล บุณยเกียรติ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เน็กซ์ อินโนเทค จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดพลังงานที่เรียกว่า สมาร์ท ไลท์ติ้ง ได้เข้าร่วมงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ในปีนี้ นับเป็นปีที่ 3 เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของงานที่เป็นเวทีที่ได้พบปะผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายและบริษัทฯ ได้มีโอกาสนำเสนอองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้เข้าชมงาน ในปีนี้ เราจะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม LED High Bay และ LED Low Bay ไปจัดแสดง โดยเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบไฟฟ้าแสงสว่างในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง และยังมีหลอดไฟแอลอีดีที่ใช้กับดิมเมอร์ (LED Dimmer) สำหรับโรงแรม รีสอร์ท อีกด้วย"
จากผลสำรวจโดย Market and Markets มูลค่าตลาดไฟฟ้าแสงสว่างอัจฉริยะรวมคาดว่าจะมีมูลค่า 19.47 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2565 หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 27.1 เปอร์เซ็นต์ ในแง่ของปริมาณ คาดว่าขนาดของตลาดจะเพิ่มขึ้นถึง 1.27 พันล้านยูนิต ภายในปี 2565 หรืออัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 71.3 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปัจจัยผลักดันการเติบโตสำคัญคือความต้องการของผู้บริโภคในระบบไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit