“ยูเนี่ยนแพน” จัดงาน “One Stop Shopping Expo” กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 60 หวังชูธงสินค้าแบรนด์ไทย

12 Oct 2017
"ยูเนี่ยนแพน" รับลูกนโยบายภาครัฐ ดันผู้ประกอบการ-สินค้าแบรนด์ไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ผุดงานแสดงสินค้าช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 60 งาน "One Stop Shopping Expo" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 22 ตุลาคม 2560 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 1-4 ชูคอนเซ็ปต์ "รักเมืองไทย ไทยชม ไทยใช้ ไทยพอเพียง งานเดียวครบ จบทุกความต้องการ" คาดเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท
“ยูเนี่ยนแพน” จัดงาน “One Stop Shopping Expo” กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 60 หวังชูธงสินค้าแบรนด์ไทย

นางวชิรา จิตศักดานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ็กซิบิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะจัดงานแสดงสินค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีภายใต้ชื่อ งาน "One Stop Shopping Expo" ระหว่างวันที่ 14-22 ตุลาคม 2560 ณ อิมแพ็คเ มืองทองธานี อาคาร 1-4 บนพื้นที่แสดงสินค้ากว่า 2 หมื่นตารางเมตร พร้อมชูคอนเซ็ปต์ "รักเมืองไทย ไทยชม ไทยใช้ ไทยพอเพียงงานเดียวครบ จบทุกความต้องการ" ภายในงานประกอบไปด้วย โซนแสดงสินค้า 6 โซนหลัก ได้แก่

1. งาน Furniture Expo โซนที่รวบรวมสินค้าตกแต่งบ้านครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นชุดห้องรับแขก ชุดห้องนอน ชุดรับประทานอาหาร ชุดห้องครัว ชุดสำนักงาน และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน แบ่งเป็น กลุ่มผู้ผลิต สัดส่วน 40% กลุ่มผู้นำเข้า สัดส่วน 30% และตัวแทนจำหน่าย สัดส่วน 30% จำนวนกว่า 200 ผู้ประกอบการไทยรวมตัวกันเพื่อนำเสนอ สนับสนุนและขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจในอุตสากรรมเฟอร์นิเจอร์

2. งาน Smart Electronic Expo โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 16 แบรนด์ชั้นนำ ที่นำสินค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ในระดับราคาที่หลากหลายและจับต้องได้มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือกซื้อ พร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคาสูงสุดกว่า 80%

3. งานพันธุ์ไม้และสัตว์เลี้ยง เป็นโซนที่รวบรวมผู้ประกอบการเกี่ยวกับพันธุ์ไม้นานาชนิด มาให้ได้เลือก ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และการจัดสวน นอกจากนี้ยังเป็นโซนที่รวบรวมเอาผู้ประกอบการกลุ่มสัตว์เลี้ยงน่ารัก สวยงาม อาทิ สุนัข แมว และปลาสวยงาม มาร่วมออกบูธ เอาใจผู้ชื่นชอบสัตว์เลี้ยงน่ารักโดยเฉพาะ

4. งาน Wedding Expo โซนที่รวบรวมผู้ประกอบการด้านการจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร อาทิ ผู้ประกอบการโรงแรม ผู้ผลิตการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย และช่างภาพ มาร่วมออกบูธให้บริการคู่รักที่กำลังวางแผนเตรียมตัวแต่งงานในปีหน้า โดยจัดรายการโปรโมชั่นสนับสนุนการขายภายในงาน เพียงคู่รักที่จองแพ็กเกจในงาน สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์พิเศษบัตรล่องเรือยอร์ช มูลค่า 20,000 บาท จำนวน 10 คู่ โดยมอบให้ผู้ที่จับจองแพ็กเกจในราคาสูงสุด 10 ท่านแรก

5. งาน Fashion & Jewely Expo โซนที่รวบรวมเครื่องหนัง เครื่องประดับ และเสื้อผ้าสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษ จากผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย ที่เป็นรายย่อย SME ขนาดเล็ก รวมไปถึงแฟชั่นแบรนด์อินเตอร์ชั้นนำ จัดจำหน่ายในราคาลดสูงสุดกว่า 70% โดยเน้นแฟชั่นเสื้อผ้าหลากหลายสไตส์ เจาะกลุ่มวัยทำงานตั้งแต่อายุ 25-40 ปี ให้นักช็อปเลือกอย่างจุใจ

6. งานอร่อยเด็ด 7 ตลาดน้ำ เป็นโซนที่รวบรวมผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังจากตลาดน้ำ 7 แห่งทั่วเมืองไทย ได้แก่ ตลาดน้ำขวัญเรียม, ตลาดน้ำวัดสะพาน, ตลาดน้ำรังสิต, ตลาดน้ำบางกอก, ตลาดน้ำมหานคร, ตลาดน้ำบางคูลัด และตลาดน้ำอัมพวา มาร่วมออกร้านเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือก ชิม ช็อป จากร้านอาหารดังของตลาดน้ำแต่ละแห่ง พร้อมสนับสนุนวิชาชีพ ด้วยการจัดการประกวดเฟ้นหาเชฟไทยผีมือเยี่ยม ในวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2560 พร้อมสาธิตประกอบอาหารหลากหลายเมนู 9 วัน 9 เชฟ อีกด้วย และเชิญ เปิปตำนานอาหารจาก 20 ร้านดังเป็นครั้งแรกกับ เปิปพิสดาร แม่ช้อยนางรำ เพื่อส่งเสริมภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่ได้รับการยกย่องจากนักชิมชื่อดัง คุณสันติ เศวตวิมล ที่ให้เกียรติเข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกอีกด้วย

นอกจากนี้ภายในงาน บริษัทฯ ยังได้จัดพื้นที่บริเวณหน้างาน กว่า 200 ตารางเมตร จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ 9 พระราชกรณียกิจอันโดดเด่น ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์มีต่อคนไทยทั้งแผ่นดิน ได้แก่ พระราชกรณียกิจด้านการเกษตรและการยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน, พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข, พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา, พระราชกรณียกิจด้านศาสนา, พระราชกรณียกิจด้านความมั่นคงภายในประเทศ, พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรม และพระราชกรณียกิจด้านการกีฬา

นางวชิรา กล่าวด้วยว่า การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งจะมีคอนเซ็ปต์การจัดงานที่แตกต่างออกไปจากเดิมครั้งนี้บริษัทมีความตั้งใจที่จะจัดงานให้สอดคล้องกับนโยบายของทางภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม และผลักดันผู้ประกอบการไทย สินค้าไทย ให้มีช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ภายในงานนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานประมาณ 500,000 คน และคาดเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 9 วัน