'เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งลดคาร์บอนในอากาศ จับมือ 'บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป’ ลงนามเปิดตัวโครงการ 'ChargeNow’ สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมล้ำหน้าแห่งอนาคต

23 Aug 2017
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ริเริ่มโครงการ 'ChargeNow' เครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอกย้ำความเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาเพื่อเท่าทัน และล้ำหน้าต่อเทรนด์การใช้ชีวิตด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่เพียงแต่ที่อยู่อาศัย แต่ยังหมายรวมถึงคุณภาพสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของสังคมเมืองอีกด้วย เอพีมุ่งหวังนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมไร้การปล่อยก๊าซคาร์บอนในที่สุด โดยจะเริ่มสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้ากับคอนโดมิเนียมเครือเอพี และขยายต่อไปยังโครงการอื่นๆ ในอนาคต
'เอพี ไทยแลนด์’ มุ่งลดคาร์บอนในอากาศ จับมือ 'บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป’ ลงนามเปิดตัวโครงการ 'ChargeNow’ สนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมล้ำหน้าแห่งอนาคต

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม กล่าวว่า "เอพี (ไทยแลนด์) เราดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์สำคัญ คือ 'AP Think Different' โดยเราให้ความสำคัญกับการคิดต่าง และพัฒนาธุรกิจเพื่อความสำเร็จแบบยั่งยืน เราจึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนา เพื่อเท่าทันและล้ำหน้าต่อเทรนด์การใช้ชีวิต และเทรนด์การอยู่อาศัยในอนาคต และตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 โดยเป้าหมายสูงสุดของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนเมือง เรามุ่งมั่นที่จะสร้าง ที่อยู่อาศัยซึ่งตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตอันทันสมัย เราเปิดรับทุกไอเดียใหม่ๆ ทางเลือกในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการใช้พื้นที่ต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อการมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของผู้อยู่อาศัย และเอพี (ไทยแลนด์) มองว่าโครงการ ChargeNow จึงเป็นแง่มุมใหม่ของการใช้ชีวิตอันทันสมัย และยังสามารถลดจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างแท้จริง เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตร ผู้ริเริ่มโครงการที่ดี และล้ำสมัยอย่างโครงการ ChargeNow เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย และนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมเติบโตไปกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอนาคต"

"การสนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า และระบบปลั๊กอิน ไฮบริดจะช่วยให้สามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศได้ เนื่องจากการหันมาใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า หรือระบบปลั๊กอิน ไฮบริดจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันได้ถึง 50% เมื่อลดการใช้ปริมาณน้ำมันจะสามารถลดการผลิตมลพิษทางอากาศได้ด้วยเช่นกัน" นายวิทการกล่าวเสริม

ในปัจจุบัน โครงการ ChargeNow ให้บริการสถานีสาธารณะในการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 65,000 แห่ง ใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่สะดวกและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีโครงการ ChargeNow จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟน และในเว็บไซต์ ซึ่งสามารถช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่างพร้อมให้บริการหรือมีการใช้งานอยู่ โดยลูกค้าจะได้รับการ์ด ChargeNow และสามารถเข้ารับบริการในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าสะดวก ลูกค้าจะได้รับบิลค่าบริการทุกสิ้นเดือนเช่นเดียวกับบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือ

โครงการ ChargeNow จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type 1 (SAE J1772) และ Type 2 (IEC 62196) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือยี่ห้อใด โดยจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนล่วงหน้า ในช่วงประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 นี้

"เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง"

HTML::image( HTML::image(