MR.HENGLONG LY เล่าว่า "ด้วยทางบ้านประกอบธุรกิจค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ที่นำเข้าจาก 3 ประเทศ ด้วยกัน คือประเทศจีน เวียดนาม และไทย ในการนำสินค้าเข้าสู่ประเทศ การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตนเองจึงอยากมีความรู้และเข้าใจภาษาไทย ซึ่งไม่ใช่เพียงภาษาไทยเท่านั้น การรู้จักบริษัทรายใหญ่ในประเทศไทย การสร้างความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญ" จึงสอบชิงทุนโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาศึกษาสาขาวิชาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (หลักสูตรภาษาไทย) โดยตนเองสามารถพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้ เพราะว่า ก่อนที่จะมาศึกษาที่ประเทศไทย ทางโครงการ ได้ให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งตนเองได้ศึกษาเรียนรู้ภาษาไทยที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นเวลา 3 เดือน
ครอบครับของตนเองอยู่ในเมืองพนมเปญ ทางบ้านมีลูกทั้งหมด 3 คน ตนเองเป็นลูกคนโต น้องชายคนที่ 2 ได้ทุนไปเรียนที่สาธารณรัฐประชาชนจีน น้องสาวคนเล็ก ได้ทุนไปเรียนที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตนเองเรียนจบในระดับชั้นมัธยมต้น Wat Koh High School ระดับมัธยมปลาย Singapore International school (สายศิลป์-ฝรั่งเศส) โดยได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์ 4 เดือน ได้เรียนรู้ชีวิตประชาชนสิงคโปร์ ได้ใช้และพัฒนาภาษาอังกฤษ เรียนรู้การใช้ชีวิตต่างแดน นอกจากนี้ทางบ้านยังให้เรียนภาษาจีนตั้งแต่ชั้น ม.1 – ม.6 เพราะว่าอยากให้ลูกพูดได้หลายภาษา ตนเองจึงสามารถพูดได้ทั้งหมด 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย,จีน,อังกฤษ,ฝรั่งเศส และภาษาเขมร"สามารถพูดได้หลายภาษาจะได้เปรียบและมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิต"
3 ปี ที่ได้เป็นนักศึกษา มทร.ธัญบุรี ปัจจุบันตนเองเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 3.09 ตอนที่มาเรียนแรกๆ อาจมีปัญหาในเรื่องของคำศัพท์ แต่โชคดีมีเพื่อนช่วยเหลือ ช่วยแปลให้ รวมไปถึงการติวสอบ เมื่อภาคเรียนที่ผ่านมา ตนเองเป็นตัวแทนนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจแลกเปลี่ยนโครงการ MOU ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ฝึกใช้และพัฒนาภาษาอังกฤษเป็นเวลา 1 เดือน เป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ทางคณะได้มอบโอกาสให้กับตนเองในครั้งนี้ ปัจจุบันตนเองพักอยู่พักในหอมหาวิทยาลัยกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ได้รับทุนเหมือนกัน ระหว่างที่เรียนตนเองได้ทำงานไปด้วย โดยวันเสาร์-วันอาทิตย์ เป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส สถาบันสอนภาษาที่สยาม วันละ 6 ชั่วโมง ได้ค่าสอนชั่วโมงละ 500 บาท ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะกลับบ้านทุกปิดเทอม และพ่อกับแม่จะมาเยี่ยมและเข้ามาเที่ยวในเมืองไทย ปีละครั้ง ได้อยู่ที่เมืองไทย ตนเองได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย รู้จักการปรับตัว "เมื่ออยู่กับอาจารย์หรือผู้ใหญ่ควรให้ความเคารพ วางตัวให้เหมาะสม เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ก็วางตัวอีกแบบ สนุกสนาน"
"ตนเองมีโอกาสได้เห็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในทีวีตั้ง 7 ขวบ โดยประเทศกัมพูชาสามารถดูทีวีช่อง 3 ช่อง 7 และช่อง 5 ของไทยได้ ได้เห็นพระองค์ท่านทรงงาน เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆ ไปตามโรงเรียนต่างๆ ในประเทศไทย สร้างอาคารเรียนและมอบอุปกรณ์ทางการศึกษา ภูมิใจที่ตนเองได้เป็นนักศึกษาทุนโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มาเรียนในประเทศไทย จะตั้งใจเรียน ไม่ให้ได้เกรดต่ำกว่า 3 เพื่อโอกาสทางการศึกษาของรุ่นน้องรุ่นต่อๆไป จะได้รับโอกาสเหมือนกับตนเอง" ซึ่งตนเองตั้งความฝันและวางแผนจะจบการศึกษาในระดับปริญญาเอกก่อนอายุ27 นี่คือสิ่งที่ตนเองต้องทำตามความฝันให้ได้ จะนำความรู้ที่ได้ศึกษาไปถ่ายทอด เพราะว่าอยากกลับไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในราชอาณาจักรกัมพูชา
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit