ครั้งแรกที่คนรักศิลปะ และนักสะสมได้คุ้นตากับภาพวาดเหมือนบุคคลของ เจิ่น มินห์ ตัม เริ่มต้นขึ้นในปี พ. ศ. 2556 เมื่อเขาเปิดตัวภาพชุด เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 1 ที่ เครก โทมัส แกลเลอรี ราชวงศ์เหงียน มีเส้นทางประวัติศาสตร์มายาวนาน ตามที่ศิลปินกล่าวว่า "เป็นราชวงศ์ที่มีประวัติที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์ของเวียดนาม" อย่างไรก็ตามช่วง 4 ปี ระหว่าง เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 1 จนวันนี้ เจิ่น มินห์ ตัม ไม่เคยหยุดทำการค้นคว้าวิจัยเรื่องราวของราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนามนี้ เขายังคงผลิตงานศิลปะผ่านวัสดุไม้ น้ำมัน และแลคเกอร์ ที่เขาใช้เป็นสื่อในการนำเสนองานวิจัยของเขาอย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นผลมาถึงการสร้างสรรค์ผลงานชุด เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 2 ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของเขาในปี 2560
แก่นของงานชุด เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 2 เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของมินห์ ตัม ในการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของราชวงศ์ในอดีตที่ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนชาวเวียดนามในยุคสมัยใหม่นี้ ตัม ไม่ใช่เพียงแค่ศิลปินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ แต่เขาพยายามเข้าถึงความถูกต้องด้วยการใส่ใจในทุกรายละเอียด อาทิ ลักษณะทางกายภาพ หรือเสื้อผ้าของตัวละครที่เขาวาด ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จในซีรีส์แรก อย่างไรก็ตาม เขาได้ทำการต่อยอดผลงานผ่านการเล่าเรื่อง และการใช้เทคนิคและมุมมองต่างๆ ในการวาดภาพ ตั้งแต่การนำเสนอบุคลิกลักษณะที่ชัดเจนของตัวละคร และการบอกนัยทางประวัติศาสตร์ผ่านชิ้นของประดับต่างๆ
มรดกแห่งราชวงศ์เหงียนได้รับการกล่าวขานมากในปัจจุบันที่เมืองเว้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิตั้งแต่ปี พ.ศ. 2345 ถึง พ.ศ. 2488 จากการเดินทางไปเยี่ยมชมเมืองโบราณนี้หลายครั้ง เจิ่น มินห์ ตัม ไม่เคยหยุดที่จะประทับใจในความมหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมราชวงศ์อันงดงามในยุคจักรพรรดิ "ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และภูมิทัศน์เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ เมื่อผมไป ผมรู้สึกร้องเรียกหาจากส่วนลึกในใจถึงการดำรงอยู่ของมนุษย์ ณ พื้นที่เหล่านั้นในอดีต ซึ่งปัจจุบันได้เลือนหายไปแล้ว" เจิ่น มินห์ ตัม พยายามที่จะเติมช่องว่างในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งไม่มีใครอาศัยอยู่แล้ว
นอกเหนือจากมรดกทางการเมืองของราชวงศ์แล้ว ซึ่งมักถูกเล่าขานผ่านตำราทางประวัติศาสตร์ในกระแสหลัก ศิลปินให้เกียรติเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ของเขา โดยเน้นย้ำเรื่องประสบการณ์ด้านความเป็นมนุษย์ของสมาชิกราชวงศ์ ซึ่งรวมถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ อาทิ ความเศร้าโศก ความรักความสูญเสีย เพื่อสื่อสารและสร้างความประหลาดให้กับผู้ชม กิง ซวึย ตัน และ มาดาม โฮ ถิ จี้ เป็นตัวอย่างของการใช้วิธีการนี้ แม้กระทั่งแต่การเปลี่ยนจุดโฟกัสจากองค์พระจักรพรรดิไปที่การนำเสนอตัวละครผู้หญิงที่มีความสำคัญน้อยกว่า ขณะที่รูปวาดองค์พระจักรพรรดิซวึย ตัน ที่ถูกเสนอเป็นเงาที่อยู่ข้ามไหล่ของเธอ มาดามโฮ ถิ จี้ โดดเด่นในชุดยาวสีเขียวของเธอ และอยู่ในอ้อมกอดที่อ่อนโยนของนกยูง ซึ่งนกยูงมักเป็นสัญลักษณ์ของความสง่า ความงดงาม และความดี และเชื่อกันว่าเป็นการมาปรากฎตัวบนโลกของนกเฟิ่งหวง (หรือนกฟินิกซ์) ซึ่งเป็นนกที่เป็นตำนานที่เชื่อกันว่าควบคุมเทพบนฟ้าทั้งหมด ภาพวาดต้องการก่อให้เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจจากผู้ชมต่อชีวิตที่น่าเศร้าของหญิงที่ผู้สูงศักดิ์ที่แม้ความดี ความชาญฉลาด และความงามไม่สามารถช่วยเธอจากการตกเป็นเหยื่อในยุคสมัยของเธอได้
ศิลปินได้กล่าวถึงคอลเลกชั่น เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 2 ว่า "บางทีชุดภาพซีรีส์นี้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นการวิเคราะห์แบบสมัยใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเรา" สำหรับผลงานในอนาคต เจิ่น มินห์ ตัม ต้องการท้าทายตัวเองด้วยรูปแบบชิ้นงานที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เช่น การวาดภาพจักรพรรดิองค์แรกๆ แห่งราชวงศ์เหงียน โดยใช้ศิลปะพื้นบ้านเป็นแหล่งอ้างอิงเพียงแหล่งเดียวที่มี หรืองานแต่งงานของจักรพรรดิเบ่า ได๋ และจักรพรรดินีนัม เฟวือง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงงานซีรีส์ที่ 3 นั้น ขอเชิญท่านร่วมชมงาน เฮ้าส์ ออฟ เหงียน 2 ครั้งนี้ ที่ เครก โทมัส แกลเลอลี เดินทางย้อนเวลา และชื่นชมเทคนิคเฉพาะตัวของ ตัม ในการผสมน้ำมัน และแล็คเกอร์ เพื่อนำเสนอบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม
งานเปิดการแสดง: เฮ้าส์ ออฟ เหงียน II - 28 กรกฎาคม 2560 เวลา 18:00-21:00 น.
ระยะเวลาแสดงงาน: ระหว่างวันที่ 28 กรกฏาคม – 26 สิงหาคม 2560
สถานที่: เครก โทมัส แกลเลอรี
27i ถนน จัน หยัด หย่วด
ตัน ดินห์ หวั่ด เขต 1
โฮจิมินห์ซิตี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit