การฝึกซ้อมในวันศุกร์มีฝนตกลงมาเยอะ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ แซนดี้ชื่นชอบเป็นอย่างมากในการขับขี่ลัมโบกินี ฮูราแคน จีทีสาม (Lamborghini Huracan GT3) ของเขาใน ตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ทำการขับขี่ได้ดี ไม่ว่าจะนักขับ หรือ ทีมงานซึ่งมีส่วนสำคัญในการเตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการแข่งในช่วงสุดสัปดาห์
เช้าวันเสาร์ ในช่วงควอลิฟายท่ามกลางสภาพสนามที่แห้ง ในขณะที่ตลอดเวลาของการซ้อมได้ซ้อมท่ามกลางสนามที่เปียกมาโดยตลอด แซนดี้และทีมงานพยายามทำได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และได้กริดสตาร์ทที่ 6 สำหรับการแข่งขันในเรสที่ 1 และได้กริดสตาร์ทที่ 15 ในการแข่งเรสที่ 2
การแข่งขันเรสที่ 1 เกิดขึ้นภายใต้แสงอาทิตย์และอากาศที่ร้อนของภูเขาฟูจิ ทีมงานและนักขับต้องแก้โจทย์อีกครั้ง มันหมายถึงการเซ็ทอัพรถที่แตกต่างกันระหว่างสนามเปียกกับสนามแห้ง หลังจากการเริ่มต้นสตาร์ทอันยอดเยี่ยม มาร์ติน โคดริค ไล่ขึ้นมาอันดับที่ 4 และขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงอันดับที่ 2 จนกระทั่งถึงช่วงเวลาพิทสตอร์ป (Pit Stop) ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนตัวนักขับ เมื่อเปลี่ยนแซนดี้เข้ามาในรถ ต้องทำการรอถึง 7 วินาที (เป็นกฏอันเนื่องมาจากคว้าที่ 2 ในสนามก่อนหน้า คือ สนามซูซูกะ นั่นเอง เรียกว่าเป็น Success Penalty) เมื่อออกจากพิทอีกครั้ง แซนดี้จึงหล่นไปอยู่ในอันดับที่ 3 นักขับไทยสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้อย่างดี จนกระทั่งเมอร์เซเดสเบนซ์ ของแม็กซิมิเลียน บุค (Maximilian Buhk) ขึ้นแซงในจังหวะสุดท้ายชิงโพเดียมไป ทำให้แซนดี้จบลงในอันดับ 4 และถือว่าได้ที่ 3 ในประเภทซิลเวอร์คลาส
ในเรสที่ 2 วันอาทิตย์ แม้จะมีเมฆที่เป็นลาง ๆ ลอยอยู่เหนือฟูจิสปีดเวย์ แต่สนามก็ยังคงแห้ง มันจะเป็นงานที่ยากสำหรับแซนดี้ เพราะ เริ่มออกสตาร์ทที่ 15 หลังจากออกสตาร์ทไม่นาน แซนดี้ค่อยๆแซงไต่อันดับขึ้นมา ต่อสู้เพื่อหวังท็อปเท็น ขณะนั้นเองรถลัมโบกินีของเขาก็มีปัญหาในระบบการผลักน้ำมันเข้าเครื่อง ทำให้รถหมดกำลัง แซนดี้จึงต้องขับกลับเข้าพิทเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทำให้ทิ้งห่างไปถึง 3 แลป ไม่นานต่อมาแซนดี้ส่งต่อรถให้เพื่อนร่วมทีมของเขา และทั้งคู่ก็จบลงอันดับที่ 24
แซนดี้กล่าวว่า "สัปดาห์นี้ มีทั้งขึ้นและลง แต่เราก็ได้รู้ว่าปัญหาของเราคืออะไร บางอย่างก็เหนือการควบคุม อย่างน้อยอันดับที่ดีที่สุดที่เราทำได้ที่ฟูจิ ก็คืออันดับที่ 4 และผมมั่นใจว่าสนามถัดไปที่เซี่ยงไฮ้ เราต้องดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit