Movie Guide: “คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่เกา((E))หลีเด้อ" หนังไทยโอทอปทำมือเรื่องแรก เตรียมฉายแล้ว 24 สิงหาคมทุกโรงภาพยนตร์

21 Aug 2017
ได้ฤกษ์ฉายตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับภาพยนตร์ไทยโอทอป "คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่เกา((E))หลีเด้อ" จากค่ายหนังน้องใหม่ 'ACTS 28' หนังไทยทำมือการันตีคุณภาพที่แสดงถึง มิตรภาพ ความฝัน และความรัก ของสามหนุ่มสายปลาร้า ที่โคจรมาพบกับซุปตาร์สายกิมจิ เรื่องราวความรักปนความสนุกจึงเกิดขึ้น ทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นหนังไทยโอทอป หนังที่ทีมงานทุกคนร่วมใจกันสร้าง หนังที่ใช้อุปกรณ์จากการ DIY ที่ทุกคนจะต้องอึ้ง และทึ่ง นำทีมโดย โดย เวสต์ สหรัฐ ฉิมพินิจ (West saha) ผู้อำนวยการสร้าง และกำกับภาพยนตร์ พร้อมด้วยนักแสดง นักแสดงทั้งไทยและเกาหลีรับบทพระเอกโดย 3 หนุ่มสายปลาร้า ซัน ชีวานนท์, อาตี้ ธนฉัตร และพระเอกน้องใหม่ หยก ปกป้อง ที่จะมาเรียกเสียงฮา รับบทนางเอกสาวหน้าใหม่เตรียมแจ้งเกิดในวงการโดย หมิว รัญชิดา และ เบญจา อาร์สยาม พร้อมด้วยก๊วนนักแสดงฝั่งไทย ฟลุ๊ค ธีรพัฒน์, เจเนต เขียว, อาวอ จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร นักแสดงฝั่งเกาหลี ได้แก่ ลี ซัง ฮอน, คิม ซอก มิน, ซัน ยอง เทีย, ชิน วู อาฮ์น, และจิว วู แจง และอีกคับคั่ง ที่พร้อมหอบใจกันมาเล่นเรื่องนี้ กำหนดฉาย 24 สิงหาคมนี้ ณ โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ ชั้น 4 หน้าโรงภาพยนตร์ SF เดอะมอลล์บางกะปิ
Movie Guide: “คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่เกา((E))หลีเด้อ" หนังไทยโอทอปทำมือเรื่องแรก เตรียมฉายแล้ว 24 สิงหาคมทุกโรงภาพยนตร์

เวสต์ สหรัฐ ฉิมพินิจ เจ้าของค่ายหนังน้องใหม่ 'ACTS 28' และผู้อำนวยการสร้าง และกำกับภาพยนตร์ "คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่เกา((E))หลีเด้อ" เผยว่า "เรารอคอยมานานกว่า 5 ปี สำหรับเรื่องนี้เริ่มจากที่ผมไปทำนาที่หนองกี่ เลยทำให้มองเห็นวัฒนธรรม และความสวยงาม ผมเลยเริ่มลงมือทำเลยกลับมาเขียนบท และผมคิดต่อไปว่าเราจะนำเอาวัฒนธรรมให้ชาติอื่นดูได้อย่างไร เลยเป็นที่มาของหนังเรื่องนี้ เมื่อมีการดำเนินเรื่อง เมื่อมีนักแสดง แต่ไม่มีเงิน วิธีคิดของผมคือ...ตามล่าหาความฝันกันเลย การก้าวเดินออกมาของผมแต่ละก้าวมันเริ่มต้นด้วยความเชื่อ ความรัก ความศรัทธาที่มีต่อสิ่งที่ตนเองทำ มันมีพลังที่สามารถจะผลักตัวเองให้กล้าล่าฝันในครั้งนี้ โดยเริ่มจากเขียนบทเสร็จจากนั้นจึงออกไปหาทีมงาน นักแสดง ทุกคนที่มาตอนแรกไม่รู้จะได้ตังหรือไม่ โปรเจคต์นี้โอเพ่น เปิดสำหรับทุกคน ทุกคนเลยมาช่วยกัน ทีมงานเราทำภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อทุกคนมาร่วมแล้วมีงานให้กลับไปทำงานหลักของตัวเองก่อนแล้วค่อยกลับมาทำใหม่ บางคนมาวันเดียว 3 วัน เดือนนึง เราใช้เวลาถ่ายทำปีเศษ เขียนบทอยู่นานกว่าหนังจะออกมาสำเร็จรูป ส่วนนักแสดงเราคัดจากคาแรคเตอร์ที่เหมาะกับบทบวกกับทัศนะคติที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา เพื่อจะได้คนที่พร้อมลุยไปกับเรา ซึ่งเมื่อทุกคนได้ฟังจึงตัดสินใจเข้ามาร่วมรวมหัวจมท้ายกับโปรเจคนี้ โดยครั้งแรกคิดคอนเซ็ปต์หนังที่นำมิตรภาพของเกาหลีแดนกิมจิมาแมตช์กับปลาร้าจากแดนอีสาน ผมคิดว่ายังไม่มีใครทำด้วย ผมอยากให้อีสานเราอินเตอร์ไปสู่ที่อื่นบ้าง เลยวางพล็อตเป็นหนุ่มเกาหลีอกหักมาที่เมืองไทยและมาพบกับ 3 หนุ่มที่ชื่นชอบเกาหลี เมื่อเราไม่มีเงินถุงถังมันเป็นเรื่องยากที่จะเอานักแสดงเกาหลีเข้ามาเล่น ผมจึงนึกถึงนักแสดงคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทกันที่เกาหลี "ลี ซัง ฮอน" มาเริ่มโปรเจคนี้ พอเขาอ่านบทเขาจึงตัดสินใจบินมากรุงเทพเรานั่งคุยกัน จนได้ร่วมงานกันซึ่งเขากลับแสดงได้ประทับใจเรา พอเราคอนเน็กไปทุกคนที่เกาหลีก็เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งผมยังรู้สึกเกินความคาดหมาย ยังมีนักร้องอาชีพ "คิม ซอกมิน","อิม ซอลยอง" ช่วยร้องเพลงแต่งเพลงให้ หนังเรื่องนี้อารมณ์มันเหมือนร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าว ยังไงยังงั้น

ส่วนความเป็นโอทอป "อาร์ตี้ ธนฉัตร" เป็นคนตั้งให้ มันเริ่มมาจากอย่างที่บอกหนังเรื่องนี้ไม่มีตังค์ แต่เราจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการถ่าย กล้อง เครน ไฟ ก่อนหน้าเปิดกล้องผมก็ไปหาซื้อเศษอุปกรณ์ตามร้านขายของเก่า มาทำเป็นไฟถ่ายหนัง พอไปถ่ายหนัง ทุกคนที่เป็นมืออาชีพมาเห็นเขาตกใจ และคิดว่าไม่โอเค ขณะที่กำลังถ่ายอยู่ซึ่งไม่ได้ภาพที่ต้องการเราจึงอยากทำอุปกรณ์เสริม คือดอลลี่ ซึ่งตอนนั้นไม่มี เลยให้เงินเพื่อนมาทำดอลลี่ตอนแรกมี 3 ล้อ ผมเลยงงทำไมมีแค่นี้ พอรู้ว่าที่ขาดอีกล้อเพราะเงินหมดพอดี แต่ในที่สุดมันก็ผ่านไปได้ จนออกมาเป็นภาพยนตร์พร้อมฉาย ส่วนเครนเราก็หาอุกปรณ์มาทำ ไม่มีขาตั้งไฟก็ใช้เหล็กมาทำ คือมันDIY

สำหรับแนวคิดการทำหนังของผม ผมเริ่มจากสิ่งที่ผมมีก่อน เหมือนการใช้ชีวิตเรามีอะไรเราใช้ก่อน แล้วเรามาดูว่าศักยภาพจะเพียงพอกับเรื่องนี้หรือเปล่า ซึ่งผมสำนึกตลอดเวลาว่าเราปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่าเราเป็นคนอีสาน เราใช้ชีวิตแบบเพียงพอ ผมชอบทำหนังผมเลยเลือกที่จะทำแบบพอเพียง ซึ่งในทีสุดหนังเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นจากน้ำพักและน้ำแรงของทุกคนที่เข้ามาช่วยกัน" เวสต์ สหรัฐ ฉิมพินิจ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับเรื่องราวของภาพยนตร์ "คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่เกา((E))หลีเด้อ" เป็นเรื่องราว ของเพื่อนซี้ กุ๊ดจี่ แย้ เฉื่อย 3 หนุ่มอีสานบ้านนา ขาติ่งเกาหลีตัวพ่อ ที่คลั่งไคล้ดาราเกาหลีจนแทบจะเข้าเส้น จนคนรอบข้างทั้ง "เอียน" และ "เอือม" โดยเฉพาะกุ๊ดจี่ที่ถึงกับเปลี่ยนชื่อเป็น "คุกจียอง" แล้วก็เหมือนฟ้าเป็นใจ ทำให้ วันหนึ่ง 3 หนุ่มสายปลาแดก ได้พบกับ "ลีซังฮอน" นักแต่งเพลงค่ายดัง สายกิมจิแบบตัวเป็นๆ ที่สนามแข่งรถที่บุรีรัมย์ เพราะลีซังฮอนเพิ่งอกหัก และเลือกหลบมาเลียแผลใจที่นี่พอดี กุ๊ดจี่และเพื่อนรีบเสนอหน้าเป็นไกด์นำเที่ยวแม้จะพูดเกาหลีแทบไม่ได้เลย เพื่อความฝันอันเรืองรองที่จะได้ใกล้ชิดเกาหลีตัวเป็นๆ จนกลายเป็นความฮาป่วนแบบปลาร้าผสมกิมจิแต่ก็ทำให้เกิดมิตรภาพอันดีระหว่างเกาหลีกับอีสาน

นอกจากจะสมหวังเรื่องเกาหลีแล้วเขายังหวังที่จะควรคู่กับ "ฟ้า" สาวน้อยน่ารัก เพื่อนร่วมชั้นที่เขาหมายปอง และมีความสตรองเป็นที่ตั้ง เพราะฟ้าเก่งทั้งเทควันโด หมัดมวย รักความเป็นธรรม ทำให้หนุ่มหลายคนไม่กล้าแหยม แม้แต่ตัวเขายังเสียวสันหลังวูบ แต่หัวใจมันห้ามไม่อยู่ ติดอยู่แค่สถานะที่ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอก จนเกือบทำให้เขาต้องสูญเสียความรักครั้งนี้ไป แต่การพบกันระหว่างกุ๊ดจี่และ ลีซังฮอน กลับทำให้ทั้งคู่ค้นพบทางออกเรื่องความรักที่คาใจของคนทั้งคู่แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ทางออกที่เจอจะใช้ได้ จริงหรือไม่ ความฝันของกุ๊ดจี่ และสหายจะลงเอยยังไง ติดตามต่อได้ใน แมงกุ๊ดจี่ เกาอีหลีเด้ออออออ

ติดตามชมได้แล้ว 24 สิงหาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ที่ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ แฟนเพจwww.facebook.com/แมงกุ๊ดจี่-เกา-E-หลีเด้อ

ตัวอย่างภาพยนตร์ ​​​​​​​​​​​​​​(Official Trailer) V.1.1 (Sub ใหม่ใหญ่กว่าเดิม)

https://www.youtube.com/watch?v=fZ0XBTwA7aA

เจาะลึกเบื้องหลังการ....เริ่มต้นในการสร้างภาพยนตร์โอทอป จากอุปกรณ์บ้านๆ รอบกายจนกลายมาเป็นหนังที่พิเศษเรื่องหนึ่ง "คุกจียอง แมงกุ๊ดจี่ เกา(E)หลีเด้อ" หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Bug Kookje Go Inter

https://www.youtube.com/watch?v=PbvM2EoMu84&feature=youtu.be

เจาะลึกเบื้องหลัง EP:2

จากคนทำนา มาสู่การทำหนัง มาฟังวิธีทำที่อาจทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง เพราะนี่คือความจริงที่ไม่ได้อิงนิยายของกลุ่มคน MAKEOVER ที่ทำให้หนังโอทอปเรื่องนี้ เกิดขึ้นอย่างเหลือเชื่อ...!!!

https://www.youtube.com/watch?v=PbvM2EoMu84&feature=youtu.be