นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ สายการบินนิวเจน เปิดเผยว่า สายการบินนิวเจน ได้รับมอบใบรับรองผู้ด้วยใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) ที่ออกให้โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ใบรับรองดังกล่าวกพท.ได้ปรับปรุงการตรวจประเมินการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO กำหนด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางมายังประเทศไทย ที่จะได้รับบริการอย่างสะดวกสบายบนมาตรฐานการบินระดับสากล ซึ่งสายการบินนิวเจนมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพและบริการให้อยู่ในมาตรฐานต่อไป
หลังจากที่ได้รับมอบ AOC แล้วทางสายการบินนิวเจนก็จะเดินหน้าพัฒนาการให้บริการและขยายเส้นทางการบินอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้วางแผนธุรกิจระยะยาวในช่วง 3- 5 ปี ไว้ว่า จะขยายเส้นทางการบินเพิ่มจากเดิมที่เน้นเส้นทางการบิน ไทย – จีน ไปสู่ ประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น อาทิ ประเทศไต้หวัน พม่า และอินเดีย โดยจะเริ่มขยายเส้นทางไปสู่พม่าเป็นอันดับแรก คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายใน ตุลาคม นี้ และหลังจากเปิดเส้นทางการบินดังกล่าวจะทำให้สายการบินนิวเจนมีเส้นทางการบินที่ให้บริการรวมทั้งสิ้น 46 เส้นทาง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 37 เส้นทาง จึงถือว่าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเชื่อมโยงเส้นทางของภูมิภาคเอเชียให้เป็นหนึ่งเดียว
สำหรับเส้นทางการบินในปัจจุบันทั้งหมด 37 เส้นทางนั้น ประกอบด้วยเส้นทางการบินจาก 4 สนามบินหลักของประเทศไทย คือ ดอนเมือง กระบี่ สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต เชื่อมสู่ 26 เมืองท่องเที่ยวในประเทศจีน ซึ่งตลอดระยะเวลาการให้บริการ 3 ปีที่ผ่านมา สายการบินนิวเจนได้ให้บริการด้วยคุณภาพอย่างสม่ำเสมอจน ได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เพียงเท่านั้นสายการบินนิวเจนยังอยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดตัวเครื่องบินใหม่อีก 2 ลำ คือลำที่ 11 และ 12 ภายในไตรมาส 3/2560 และอีก 1 ลำ ภายในสิ้นปี หลังจากเพิ่มเครื่องบิน คาดว่าในปีนี้จะสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน และคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,500 ล้านบาท โดยครึ่งปีที่ผ่านมาสามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้แล้ว 7 แสนคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
"ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย One Belt One Road หรือ หนี่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ซึ่งถือเป็น เส้นทางสายใหม่ ยุคใหม่มาก ซึ่งจะมีการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างจีนและไทย นโยบายนี้ จะสร้างงานและรายได้ในจีนมาก โดยเฉพาะในเมืองรอง เมืองเล็กของจีน เมื่อรายได้สูงขึ้น ความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศย่อมเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งในของนิวเจนที่ทำธุรกิจสายการบินก็ถือว่าได้รับประโยชน์จากการเติบโตด้านการท่องเที่ยงของจีนเช่นกัน และประเทศไทยเป็นประเทศที่คนจีนชื่อชอบมาก การเข้ามาท่องเที่ยวของชาวจีนก็จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศไทยให้มากขึ้น " นายเจริญพงษ์ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit