กฟภ.นำทัพ ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ อวดโฉมเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง บุกหัวเมืองภาคตะวันออก ขานรับ EEC พร้อมจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เสริมแกร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

08 Sep 2017
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดิ เอ็กซ์ซิบิส เดินสายจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0" ที่จังหวัดชลบุรี ขานรับ EEC หรือโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่ออัพเดทเทรนเทคโนโลยีและโซลูชั่นในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจ พร้อมยกทัพเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง อาคารอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัย ร่วมออกบูธอย่างคับคั่ง
กฟภ.นำทัพ ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ อวดโฉมเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่าง บุกหัวเมืองภาคตะวันออก ขานรับ EEC พร้อมจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เสริมแกร่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

นายวรานนท์ ยิ้มมงคล ปลัดจังหวัดชลบุรี ในฐานประธานเปิดงาน กล่าวว่า ชลบุรีในหนึ่งในสามจังหวัด ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กระทรวงดีอี) ดำเนินการโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ให้เป็นสมาร์ทซิตี้ เช่นเดียวกับ เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อยกระดับให้เป็นเมืองดิจิทัล ทั้งยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด ซึ่งการดำเนินงานจะต้องสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับโครงการและแผนนโยบายทางเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นการเลือกจังหวัดชลบุรี เป็นเวทีในการจัดเสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ "Smart City. Safe City. เทคโนโลยีพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0" จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน รวมถึงภาครัฐและองค์กรส่วนท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะที่มีความปลอดภัย และเมืองที่มีการใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมีศักยภาพ

นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา ผู้อำนวยการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 (ภาคกลาง) จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ได้กำหนดแนวนโยบาย PEA 4.0 ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ The Electric Utility of the Future ที่มีความมั่นคง ได้มาตรฐาน มีความทันสมัย และความยั่งยืน โดยศักยภาพดังกล่าวจะนำไปสู่การก้าวเดินอย่างมั่นคงและยั่งยืนในยุคของ Thailand 4.0 และด้วยวิสัยทัศน์ของ PEA เราได้วางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี รองรับนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนและเชื่อว่าจะเป็นรากฐานที่ดีที่จะนำไปสู่เมืองอัจฉริยะในที่สุด อาทิ การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือ Smart Grid ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงไฟฟ้า ระบบสารสนเทศ ระบบสื่อสาร และการจัดทำโครงข่ายมิเตอร์อัจฉริยะ หรือ Smart Meter ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ มั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือและได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล

" PEA ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การเข้ามาให้การสนับสนุนการจัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับการจัดงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน พร้อมมุ่งหวังให้การจัดงานดังกล่าว เป็นเวทีสำคัญที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม จะได้พบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเฟ้นหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทย ให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับนานาประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล" นายเขมรัตน์ ศาสตร์ปรีชา กล่าว

นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด ผู้จัดงาน กล่าวว่า สำหรับการจัดโรดโชว์เสวนาและกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และประชาสัมพันธ์การจัดงาน "ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017" (Thailand Lighting Fair 2017) ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ร่วมกับ เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต และ ดิ เอ็กซ์ซิบิส ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งการจัดงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ ในปีที่ผ่านมาได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากนักธุรกิจ องค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีจำนวนผู้เข้าชมงานมากกว่า 8,000 คน นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จ ในฐานะงานแสดงนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างที่ครบวงจรที่สุดในอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีไฟฟ้าแสงสว่างของอาเซียน การจัดงานปีนี้ จึงมีความยิ่งใหญ่และพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยได้เพิ่มโซนเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและอาคารอัตโนมัติ (Building Zone) ตามแนวทางการจัดงาน light + building ประเทศเยอรมนี ของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับงาน Secutech Thailand 2017 งานแสดงเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ทโฮม การป้องกันอัคคีภัยและวิบัติภัย ซึ่งถือเป็นเวทีที่รวบรวมเทคโนโลยีและโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำมาไว้ในที่เดียวกัน ครอบคลุมทั้งด้านไฟฟ้าแสงสว่าง วิศวกรรมไฟฟ้า ระบบอาคารอัตโนมัติ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอย่างครบครัน โดยคาดว่าจะมีบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกเข้าร่วมงานกว่า 700 บูธ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ คณะผู้จัดงานฯ ยังได้ประชาสัมพันธ์การจัดงานผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ หลากหลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการจัดโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ต ขอนแก่น และครั้งนี้ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดเป็นจังหวัดนำร่องที่รัฐบาลกำหนดให้พัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ(Smart City) ในการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด สำหรับกิจกรรมโรดโชว์ที่จังหวัดชลบุรี เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลได้จัดทำโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ที่ดำเนินมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา

"พร้อมกันนี้ยังได้จัดโรดโชว์ไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ ประเทศลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ เพื่อเชิญชวนนักธุรกิจและนักพัฒนาเมืองในประเทศเหล่านี้เข้าร่วมงาน เพื่ออัพเดทและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้นำเทคโนโลยีจากประเทศดังกล่าว ซึ่งล้วนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและกำลังมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศของตน" นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ กล่าวเสริม

สำหรับไฮไลท์สำคัญภายในงานปีนี้ ได้แก่ "Smart City. Safe City. Landmark" ซึ่งเป็นโซนจำลอง"เมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัย" ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมสัมผัสเมืองอัจฉริยะผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมือง Smart Street Lighting, Smart Home, Smart Retail, Smart City Surveillance และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้แนวคิด "ไฟฟ้าแสงสว่าง โครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเมืองและแพลตฟอร์มสำหรับ IoT" และการประชุม 4 ฟอรั่มใหญ่ จากวิทยากรชั้นนำผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจากทั้งในและต่างประเทศ ที่จะร่วมให้ความรู้และอัพเดทเทรนในอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่าง รวมไปถึงกรณีศึกษาจากโครงการขนาดใหญ่ ทั้งยังเปิดอบรมหลักสูตรด้านมาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงการเสวนาในหัวข้อที่น่าสนใจอีกมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้างาน ฟรี! ได้ที่ www.thailandlightingfair.com หรือบริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์ 02-664-6499 ต่อ 200 โทรสาร 02-664-6477 หรือที่อีเมล [email protected]