นอกจากนี้ จากการชี้แจงของนายมาณพ จงเกษมธรรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์เคหสถานชายคลองบางบัว จำกัด และยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกลุ่มออมทรัพย์ของชุมชนด้วยอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ซึ่งนายมาณพได้ชี้แจงว่าเงินออมของชาวบ้านทั้งหมดยังคงอยู่ในบัญชีของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยของชุมชนบางบัวครบถ้วน ส่วนเงินสาธารณูปโภค เป็นเงินที่สถาบันพัฒนาชุมชน (องค์การมหาชน) หรือพอช. อุดหนุนให้กับกลุ่มออมทรัพย์ในชุมชนที่ชาวบ้านตั้งขึ้นมา ซึ่งตามที่ระบุว่าชุมชนค้างค่าสาธารณูปโภคเป็นเงินมากกว่า 3.5 ล้านบาทนั้น ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ การดำเนินงานของสหกรณ์แต่อย่างไร เนื่องจากสหกรณ์เคหสถานชายคลองบางบัว จำกัด จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 มีภาระผูกพันกับกรมธนารักษ์ เฉพาะการผ่อนชำระค่าเช่าที่ดินเท่านั้น ดังนั้น เงินที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์แห่งนี้ มีเฉพาะเงินที่เก็บค่าเช่าที่ดินจากสมาชิกสหกรณ์ที่อาศัยอยู่ในชุมชนฯ เพื่อนำส่งให้กับกรมธนารักษ์ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สหกรณ์เก็บเงินค่าเช่าที่ดินจากสมาชิกส่งให้กับกรมธนารักษ์ได้ทุกเดือนครบถ้วนโดยไม่มียอดค้างชำระ และในปีที่ผ่านมา สหกรณ์มีการดำเนินงานที่มีผลกำไรและสามารถปิดบัญชีได้เรียบร้อย
สำหรับกรณีที่ชาวบ้านตรวจสอบพบว่าบัญชีเงินออมของชุมชนไม่มีอยู่ในระบบของธนาคาร แต่เป็นบัญชีขององค์กรการเงินชุมชน และไม่สามารถยืนยันยอดเงินได้ว่ามีเงินอยู่จริงหรือไม่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมและเร่งให้ความช่วยเหลือนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลเงินออมดังกล่าว พบว่าฝากอยู่ในบัญชีของกลุ่มออมทรัพย์ชุมชนคลองบางบัว และไม่ได้นำมาฝากไว้ที่สหกรณ์เคหสถานชายคลองบางบัว จำกัด ดังนั้น สหกรณ์ฯ จึงไม่สามารถยืนยันยอดเงินออมดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมสหกรณ์จะได้ประสานกับหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลกลุ่มออมทรัพย์ฯดังกล่าว เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit