พระพรพล ปสันโน หรือหลวงพี่โบ๊ท เลขานุการเจ้าอาวาส วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ทายาทตระกูล "ณรงค์เดช" นักธุรกิจผู้เลือกทางเดินเข้าสู่สายธรรมะ หลักธรรมได้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องความสำเร็จ จากความร่ำรวยทางวัตถุมาเป็นการช่วยเหลือ และชี้นำสายธรรมให้กับผู้อื่น กล่าวว่า ในแง่มุมของพระพุทธศาสนาเองต้องยอมรับว่า พระพุทธเจ้าถือเป็นผู้นำที่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง อย่างประเทศอินเดียถือเป็นประเทศที่มีความแตกต่างทางความคิดความเชื่อมากที่สุดประเทศหนึ่ง โดยในสมัยที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนาถือกำเนิดขึ้น อินเดียเป็นประเทศที่มีศาสนา ลัทธิ ความเชื่อมากมาย แต่องค์ศาสดากล้าที่จะเสนอหลักคำสอนใหม่ๆ ซึ่งค้านกับหลักความเชื่อเดิมๆ ซึ่งถามว่า อะไรคือ แรงบันดาลใจให้พระพุทธเจ้าที่กล้าคิดนอกกรอบแบบนั้น คำตอบก็คือ พระองค์ทรงมีเป้าหมายที่กว้างไกล ที่อยากจะทำให้โลกนั้นดีขึ้น
" โดยธรรมชาติของมนุษย์ไม่ชอบคนที่มีความคิดที่แตกต่าง แต่พระพุทธองค์ เล็งเห็นแล้วว่า ถ้าทำเหมือนเดิมแล้ว มันไม่พ้นทุกข์ ฉะนั้นจะต้องคิดหาแนวทางที่แตกต่างจากเดิม เพื่อให้หลุดพ้น และแนวทางนั้นจะต้องมีหลักเหตุและผล ดังนั้น ผู้นำที่ดี ต้องมีความแตกต่าง แต่ต้องเป็นความแตกต่างที่มีหลักการและเหตุผล สามารถตรวจสอบได้ วิเคราะห์ได้ ไม่ใช่มีแค่หลักคิดเท่านั้น " พระพรพล กล่าว
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า หน้าที่ของผู้นำ คือ ชี้ทิศทางขององค์กร สร้างกระบวนการทำงานอย่างมีมาตรฐานและมีความชัดเจน มีความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อความรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุด สามารถวัดผลได้ และที่สำคัญจะต้องมีการปรับใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ผู้นำจะต้องสามารถมองภาพ ในระยะใกล้ 3-6 เดือน และ ระยะไกล 3-5 ปี จะต้องรู้ว่าองค์กรจะมุ่งหน้าไปทางใด ต้องมองภาพออกมาในทุกมิติ และต้องมองหา S-curve ที่จะเป็นภาพในอนาคตขององค์กรอีกด้วย นอกจากนี้แผนการดำเนินธุรกิจ ผู้นำจะต้องสร้างแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ปรับตัวให้รับกับยุคดิจิทัลอย่างไร ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะต้องสามารถขับเคลื่อนได้ โดยไม่ขัดกับพื้นฐานขององค์กร รวมถึงเป็นแผนการดำเนินธุรกิจที่สามารถนำมาใช้เป็นจุดแข็งเพื่อการแข่งขันได้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit