รศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ล่าสุด คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ผนึกพลังความคิดของเหล่าคณาจารย์และนิสิต ร่วมนำผลงานวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมไทยมาจัดแสดงภายในงาน 'นิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรม ครั้งที่ 17 หรือ NITAD 17' โดยนำองค์ความรู้เป็นฐานในการคิด ผสานกับปณิธานที่มุ่งอุทิศความรู้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังเช่นที่คณาจารย์และนิสิตทุกรุ่นได้นำมาปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย โดยในครั้งนี้ วิศวฯ จุฬาฯ นำเสนอแนวคิดในการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อสอดรับกับสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน อาทิ การรับมือกับวิกฤติด้านพลังงาน อาหาร และน้ำ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การสร้างเมืองที่เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนในสังคมโดยไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติที่คุกคามมนุษย์เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วินาที ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกยุคปัจจุบัน จึงอยากจะเชิญบุคคลที่สนใจรวมทั้งนักเรียน นิสิต และนักศึกษาเข้ามาร่วมชมงานนิทรรศการในครั้งนี้
ด้าน ผศ.ดร.มาโนช โลหเตปานนท์ รองประธานกรรมการจัดงานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรมครั้งที่ 17 กล่าวถึงการส่งเสริมนิสิตเพื่อสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมเข้าร่วมงาน 'นิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรม ครั้งที่ 17 (NITAD 17)' ในครั้งนี้ว่า การจัดงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Driving Innovation, Unlocking Our Future ที่มุ่งนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่คณะวิศวฯ จุฬาฯ เคยจัดมา เพราะตั้งใจทำขึ้นเพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปี จุฬาฯ โดยภายในงานนอกจากจะมีการจัดแสดงผลงานทางวิชาการจากเหล่าคณาจารย์และกลุ่มนิสิตแล้ว ยังได้มีการเชิญบุคคลสำคัญ ตลอดจนผู้นำองค์กรต่าง ๆ มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางในการพัฒนาประเทศไทยให้เต็มเปี่ยมด้านศักยภาพ อาทิ รศ. ดร. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตีเฮาส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเชื่อมั่นว่าผู้ที่เข้ารับฟังจะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของการพัฒนาประเทศในแบบองค์รวมอย่างแน่นอน
ในส่วนนายชยุตม์ สกุลคู นิสิต ชั้นปีที่ 4 ภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานจัดงานในครั้งนี้ อธิบายถึงไฮไลท์ของกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานว่า การนำเสนอผลงานทางวิชาการในครั้งนี้ จะเป็นรูปแบบ 'นิทรรศการมีชีวิต' โดยผู้เข้าชมสามารถสัมผัสความรู้และข้อมูลต่าง ๆ ได้ในรูปแบบ Interactive Exhibition ซึ่งจะสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ที่น่าสนใจให้เกิดขึ้นกับผู้ชมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งงาน ภายในงานจะมีการตกแต่งเป็นมหานครจำลองประเทศไทยในอนาคตหลังได้รับการผลักดันทางด้านนวัตกรรมภายใต้ชื่อ วิศวนคร (The Enginopolis) ซึ่งผู้ร่วมงานจะได้พบกับการจัดแสดงผลงานกว่าร้อยผลงาน ผ่านการนำเสนอภายใต้ 5 Megatrends
( 5 กระแสหลักของการเปลี่ยนแปลงที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคต) ประกอบด้วย
• Food, Energy, Water Management…นวัตกรรมการจัดการอาหาร พลังงาน และน้ำ
• Smart City…นวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมเมืองในอนาคต
• Aging Society...นวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ
• Robotic & Digital Technology...นวัตกรรมเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีดิจิตอล
• Natural Disaster...นวัตกรรมเพื่อการป้องกันและการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.Nitad17.com และ Facebook.com/Nitad 17