พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ประธานในการเปิดงาน กล่าวว่า "สังคมไทยเป็นสังคมเกษตรกรรมมาตั้งแต่ดั้งเดิม แต่ครอบครัวชนบทส่วนใหญ่ มักส่งลูกหลานมาเรียนในเมือง และในที่สุดลูกหลานก็กลายเป็นแรงงาน ที่กระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ โครงการคนกล้าคืนถิ่น จึงมีความสำคัญในเรื่องของการเกษตร โดยจะส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่กลับมาใช้วิถีเกษตรแบบพึ่งพาตนเองบนพื้นที่ขนาดเล็ก และเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าเพียงพอ อยู่ได้จริงอย่างมั่นคง ยั่งยืน สามารถเป็นต้นแบบ เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง นำไปต่อยอดพัฒนาชุมชนให้มีส่วนร่วมได้ต่อไป"
ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการกล่าวว่า "โครงการคนกล้า คืนถิ่น เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทดลองหันมาใช้ชีวิต และพัฒนาอาชีพบนวิถีเกษตรยั่งยืน โดยนำปัจจัยสำคัญทางเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้ตรงจุด และเป็นประโยชน์ทางด้านการเพิ่มผลผลิตและด้านการตลาด ในปีนี้จะเน้นการแตกตัวตามบริบทของพื้นที่ จากต้นแบบเปลี่ยนเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง และพาผู้ที่สนใจกลับมาเป็นพี่เลี้ยงในปีต่อไปได้ จะไม่มีแบบที่ตายตัวเพียงแบบเดียว แต่จะเน้นตามบริบทตามศักยภาพของแต่ละคน โดยเชื่อมโยงการทำงานกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านอื่น ๆ อย่างเช่นเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือสุขภาพ เพื่อสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างทันสมัย"
ในปีนี้เหล่าคนกล้าก็ได้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่าทุกปี อาทิเอก ยุทธการ มากพันธ์ กับไอเดียบ้านศูนย์เสีย โดย เอก ยุทธการ กล่าวว่า "บ้านที่ไม่ปล่อยให้พลังงานสูญเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เป็นอีกหนึ่งโซนที่นำเสนอรูปแบบการใช้พลังงานหมุนเวียนจากสิ่งประดิษฐ์ ที่สามารถนำไปใช้จริงในบ้านทุกหลัง เพื่อให้แนวคิดและข้อปฏิบัติในการผลิตพลังงานหมุนเวียนนั้นเป็นส่วนหนึ่งกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว บ้านศูนย์เสียจึงเป็นการใช้พลังงานจากแผ่นโซล่าเซลล์เป็นหลัก พร้อมยังสนับสนุนให้ประชากรในปัจจุบัน เริ่มต้นผลิตพลังงานเพียงคนละ 1 กิโลวัตต์ ในทุก ๆ วันอีกด้วย"
ภายในงานยังพบกับไฮไลท์ การเสวนาเคล็ดลับการทำเกษตรสายชิลจากปราชญ์ชื่อดัง ดร. เกริก มีมุ่งกิจ ต้นแบบเกษตรเข้าใจธรรมชาติ ที่มาให้เคล็ดลับการทำเกษตรว่า "วิถีเกษตรกรเป็นชีวิตที่บันเทิงได้และไม่มีวันจน หลาย ๆอาชีพในโลกนี้ ที่ประสบความสำเร็จ เพราะเขาเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เข้าใจในธรรมชาติ เกษตรกรในปัจจุบันจึงต้องมีการปรับตัวโดยเอาเทคโนโลยีมาเก็บข้อมูลในธรรมชาติ และนำมาจัดการงานในสวนได้อย่างอัตโนมัติ ตรงตามที่ธรรมชาติต้องการ"
นิทรรศการ "คนกล้า คืนถิ่น" Digital Farmer: Reconnect Life to the Nature ปีที่ ๓ ถือเป็นการนำเสนอเรื่องราว ผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของเหล่าคนกล้า ในการต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร อีกทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง เรียนรู้ วางแผน รวมถึงการกลับไปลงมือทำ เพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าวิถีเกษตรแบบยั่งยืน สามารถพัฒนาต่อยอดเป็น Smart Farmer คนกล้าที่ประสบความสำเร็จได้จริง
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเกษตรต่าง ๆ ของโครงการ "คนกล้า คืนถิ่น" Digital Farmer: Reconnect Life to the Nature หรือ สมัครเข้าร่วมเป็นคนกล้าคืนถิ่น ปี ๓ ได้ที่https://www.facebook.com/konglakuentin/
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit