นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันองค์กรธุรกิจหรือสถานประกอบกิจการมีพนักงานหญิงทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก การส่งเสริมการจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้กับลูกจ้างหญิงให้สามารถเข้าถึงประโยชน์จากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่เหมาะกับการเติบโตของสมอง ส่งเสริมพัฒนาการที่ดีช่วยสร้างพื้นฐานของเชาว์ปัญญาของทารกได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อนมผสมที่มีราคาแพงและมีคุณค่าทางอาหารน้อยกว่าสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกส่งผลให้ครอบครัวมีความอบอุ่น เด็กที่ได้รับนมแม่จะได้รับทั้งอาหารกายและอาหารใจ ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวจนถึง ๖ เดือนเต็ม กสร.ได้เริ่มดำเนินการส่งเสริมการจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๙ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการที่จัดตั้งและดำเนินการในเรื่องมุมนมแม่อย่างต่อเนื่องรวม ๑,๔๑๔ แห่ง ลูกจ้างใช้บริการ ๙,๔๖๑ คน ลูกจ้างเกี่ยวข้อง ๘๘๑,๖๒๐ คน สามารถลดค่าใช้จ่ายของลูกจ้างกว่า ๒๐๐ ล้านบาท โดยคิดจากจำนวนเดือนที่ลูกจ้างเลี้ยงดูบุตรด้วยนมแม่อย่างต่ำ ๖ เดือน ประมาณการค่าใช้จ่ายในการซื้อนมผสมสำเร็จรูป ๔,๐๐๐ บาทต่อเดือน ขณะเดียวกันก็พบว่าการจัดสวัสดิการมุมนมแม่ช่วยลดการลา และเพิ่มผลิตภาพการทำงานของลูกจ้างหญิง ซึ่งสุดท้ายบริษัทเองก็จะได้ประโยชน์ด้วย
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดมุมนมแม่นั้นมีค่าใช้จ่ายไม่มาก เพียงแต่จัดมุมๆ หนึ่งขึ้นมาในห้องที่ทำให้แม่รู้สึกถึงความปลอดภัยในการบีบเก็บน้ำนมซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเลือกห้องพยาบาลและมีพยาบาลที่คอยให้คำแนะนำด้วย ที่สำคัญคือมีที่นั่งให้แม่เพื่อบีบน้ำนมและมีตู้เย็นสำหรับเก็บนมที่บีบแล้ว อย่างไรก็ตามการจัดสวัสดิการมุมนมแม่ในที่ทำงานต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อให้ผู้หญิงวัยทำงานมีโอกาสได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในอัตราที่สูงขึ้นนายจ้าง ผู้ประกอบการสนใจสอบถามได้ที่ กองสวัสดิการแรงงาน โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔ ๕๖๗๗๔,๐ ๒๒๔๖ ๐๓๘๓ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง ๑๐ พื้นที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit