อย่างไรก็ตามเราคงไม่ต้องตื่นกลัวการเป็นต้อหินจากการใช้คอมพิวเตอร์ตามข่าวนี้ แต่ก็ไม่ควรเพิกเฉยกับโรคนี้ แต่เนื่องจากโรคต้อหินเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการ หากได้รับการตรวจตาอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำก็จะสามารถแก้ไขและป้องกันการเกิดได้ ใช้คอมพิวเตอร์มาก ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอ แต่การที่มีสายตาสั้นมากเป็นปัจจัยของการเกิดต้อหินได้ กลุ่มคนทำงานหนักอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่มักเป็นผู้ที่มีสายตาสั้นมากอยู่แล้ว
เมื่อเริ่มเป็นจะรักษาโรคต้อหินอย่างไร การรักษาเบื้องต้นที่ดีที่สุด สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพผู้ป่วย จำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาทุกวันไปตลอดชีวิต ปัจจุบันยาหยอดตามีหลายชนิดต่างกันที่กลไกการออกฤทธิ์ ประสิทธิภาพและอาการข้างเคียง การใช้ยารักษาต้อหินชนิดกินหรือฉีดนั้นจะใช้ในระยะสั้นเพื่อเตรียมการผ่าตัด เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง ยาที่ใช้รักษาต้อหินแบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก คือ 1. ยากลุ่ม Beta-adrenergic blockers ยากลุ่มนี้ โดยเฉพาะยา Timolol เป็นยาที่ใช้กันบ่อยและใช้กันมานานแล้ว โดยหยอดวันละ 2ครั้ง เช้า-เย็น แต่ควรระวังในผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดหรือโรคหัวใจบางชนิด 2. ยากลุ่มAdrenergic agonist ยากลุ่มนี้บางตัวมีฤทธิ์ปกป้องสายตาได้ด้วย (Neuroprotection) แต่ควรระวังในผู้ป่วยเด็กเล็ก อาจทำให้อ่อนเพลียและง่วงซึม บางรายอาจมีอาการแพ้ได้ 3.ยากลุ่ม Carbonic anhydrase inhibitor ยากลุ่มนี้บางตัวสามารถเพิ่มเลือดไปเลี้ยงบริเวณขั้วประสาทตาได้ แต่บางรายอาจมีอาการแสบตา ยากลุ่มนี้สามารถลดความดันตาได้ดี แต่อาจทำให้ชาปลายมือ-เท้า เบื่ออาหาร น้ำหนักลดได้ 4.ยากลุ่ม Cholinergic ยากลุ่มนี้เป็นยาที่ใช้มานาน เพิ่มการไหลออกของน้ำในช่องด้านหน้าลูกตาทำให้ความดันลด 5.ยากลุ่ม Prostaglandin derivatives ยากลุ่มนี้เป็นยากลุ่มใหม่ มีประสิทธิภาพในการลดความดันตาได้ดี หยอดวันละครั้งมีผลข้างเคียงทางร่างกายน้อยมาก แต่อาจมีอาการตาแดง ผิวหนังรอบดวงตาคล้ำขึ้น ขนตายาวและหนาขึ้น 6. ยากลุ่ม Fixed combination ยาที่รวมเอายา 2ชนิดไว้ในขวดเดียวกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการหยอดตา หรือการรักษาโดยการใช้แสงเลเซอร์ การใช้เลเซอร์มักใช้ร่วมกับการใช้ยา การทำเลเซอร์ในต้อหินนั้นทำได้ไม่ยาก ไม่ค่อยพบภาวะแทรกซ้อน ใช้เวลาทำประมาณ 10-15 นาที โดยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล และอีกวิธีคือ การรักษาโดยการผ่าตัด มุ่งเน้นที่การทำช่องระบายน้ำภายในลูกตา(aqueous) จากช่องลูกตาส่วนหน้าออกมาสู่ภายนอก เพื่อลดความดันตา การผ่าตัดต้องทำในห้องผ่าตัด ใช้เพียงการฉีดยาชา หรือดมยาสลบสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็ก ใช้วิธีผ่าตัดในกรณีที่ได้รับการรักษาโดยใช้ยาและเลเซอร์อย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมความดันตาให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ หรือ รักษาจนความดันตาอยู่ในระดับปกติแต่ยังไม่ปลอดภัยโดยมีการสูญเสียลานสายตาหรือเส้นใยประสาทตาอย่างต่อเนื่อง
ดวงตา เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจก่อนสายเกินแก้ไข หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือไม่สังเกตตัวเอง สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเข้ามาทำลายความสุขในชีวิต หากชะล่าใจปล่อยไว้อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit