Deliveree สตาร์ตอัพผู้ให้บริการส่งสินค้าแบบด่วนผ่านแอพ เปิดเผยว่า ปี 2016 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ Deliveree มีผลการเติบโตที่แข็งแกร่ง และได้ขยายบริการไปยังเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดที่ 3 ภายใต้แบรนด์ Transportify เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย ตลาดการขนส่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่มีประสิทธิภาพอยู่มาก เห็นได้จากสัดส่วนค่าขนส่งที่สูงถึง 14% ของ GDP ทั้งนี้ จากดัชนี Logistics Performance Indicator ซึ่งจัดทำโดย World Bank ในปี 2016 เพื่อวัดผลและเปรียบเทียบศักยภาพของภาคการขนส่งของประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 45 ในขณะที่สิงคโปร์ครองอันดับ 5 ของโลก และมาเลเซียอยู่อันดับที่ 32 สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของภาคขนส่งทั้งในเรื่องความตรงเวลา การติดตามการส่ง และคุณภาพของผู้ให้บริการด้านการขนส่ง
ปรากฏการณ์ใหม่ของการขนส่ง
"เราอยากให้แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของเราเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการที่ธุรกิจและคนทั่วไปขนย้ายสิ่งของในเมืองใหญ่ การขนส่งควรจะเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยากและเข้าถึงได้ง่ายในราคาประหยัด ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ หรือผู้ประกอบการ SMEs ที่อยากนำบริการ Delivery มาเพิ่มโอกาสในการขายให้ธุรกิจของตัวเอง" ชนิสา เรืองคีรีอัญญะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ระบุ
ปัจจุบัน Deliveree มียอดดาวน์โหลดแอพกว่า 200,000 ดาวน์โหลด มีเครือข่ายผู้ขับกว่า 9,000 คน พร้อมประเภทรถให้บริการถึง 6 ประเภท รวมทั้งกระบะ รถเก๋ง และมอเตอร์ไซค์ ฐานลูกค้าของ Deliveree ครอบคลุมทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าส่วนบุคคล ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานที่หลากหลาย เช่น กระจายสินค้าจากคลังสินค้าเข้าสู่ร้านขายปลีก หรือธุรกิจออนไลน์ที่ใช้ Deliveree เพื่อจัดการการส่งของให้ลูกค้า ส่วนประเภทสินค้าที่ส่งผ่านแพลตฟอร์ม Deliveree ก็มีความหลากหลายมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์กีฬา สิ่งพิมพ์ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ และอื่นๆ
"การส่งของด่วนภายใน 2-3 ชั่วโมงทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล ไม่ได้มีราคาแพงอย่างที่ขึ้น และหลายๆ ครั้งก็ถูกกว่าการส่งผ่านช่องทางการส่งเดิมๆ ที่มีในตลาด ซึ่งอาจจะใช้เวลาอย่างน้อย 1-3 วันในการส่งถึงมือผู้รับปลายทางอีกด้วย ที่เราทำได้ก็เพราะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย" ชนิสาอธิบายเพิ่มเติม พร้อมเผยว่าปีนี้ Deliveree จะมุ่งเน้นการทำตลาดเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักกับกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ไม่หยุดการพัฒนา เพื่อให้การขนส่งเป็นเรื่องที่ง่ายและใครๆ ก็เข้าถึงได้
ความแข็งแกร่งอีกส่วนของ Deliveree คือการให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่ง และเป็นดีเอ็นเอสำคัญขององค์กร Deliveree มีศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี หรือ Technology Development Center อยู่ที่เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม เพื่อเป็นฮับของการพัฒนาแอพและฟีเจอร์ใหม่ๆ
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Deliveree ได้นำฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่างมาให้บริการผ่านแอพอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดเส้นทาง (Route Optimization) ที่ให้ผู้ใช้จัดเส้นทางการจัดส่งกรณีที่ต้องส่งของหลายจุด เพื่อช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ระบบดิจิตอลซิกเนเจอร์ สำหรับผู้ส่งและผู้รับทุกจุด เพื่อความมั่นใจในการส่งสูงสุด ระบบบันทึกหลักฐานการส่งสินค้าแบบดิจิตอล และการเชื่อมต่อ API
ส่วนแผนการในอนาคตอันใกล้ Deliveree ก็เตรียมส่งฟีเจอร์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้เช่ารถขนส่งแบบเหมาเป็นรายวัน ซึ่งจะพร้อมให้บริการหลังสงกรานต์นี้ รวมถึงมีแผนขยายบริการไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ในภูมิภาคwww.deliveree.comhttps://youtu.be/4-pK4cs6fT0
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit