ความเคลื่อนไหวกิจกรรม "สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขาสามัคคีปี 12" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการผนึกกำลังร่วมกันของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมจุดพลังฝันสู่พลังสามัคคี ภายใต้แนวคิด "ครบรอบ 12 ปี จุดพลังสามัคคีให้เยาวชนไทย" เฟ้นเยาวชนที่มีพลังความสามัคคีและพร้อมเพรียงมากที่สุดจำนวน 30 ทีม จาก 4 ภาคทั่วประเทศ ผ่านเข้าสู่รอบชิงแชมป์ประเทศไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2560 ได้ดำเนินมาถึงรอบชิงแชมป์ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับเกียรติจาก นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,คุณสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจาก สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), ร่วมกับคณะผู้บริหารบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ตัวแทนร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าฯ และผู้สนับสนุน ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ณ สนามกีฬาหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (สนามฟุตบอล 1)
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ในนามของการกีฬาแห่งประเทศไทยมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี โดยความร่วมมือของ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ สพฐ. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการขีดความสามารถทางการกีฬาให้กับเยาวชนไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังนำมาซึ่งประโยชน์ต่อเยาวชนไทยอันได้แก่ ความแข็งแรงของร่างกาย การเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความสามัคคี สร้างจิตสำนึกอันดีงามให้กับเยาวชนไทย รวมทั้งยังเสริมสร้างภาวะความเป็นผู้นำให้กับเยาวชนผ่านการฝึกซ้อม จึงนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีเยี่ยม และประสบความสำเร็จในการช่วยบ่มเพาะพลังความสามัคคี อันเป็นรากฐานที่สำคัญและเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อเยาวชนไทยผู้ที่จะพัฒนาประเทศให้เป็นปึกแผ่น มั่นคง และยั่งยืนสืบต่อไปในอนาคต"
ด้าน พลเอกสุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เผยว่า "ในนามของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอแสดงความชื่นชมในความตั้งใจของทางบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ได้ตระหนักและได้มองเห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรมการแข่งขัน สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกิจกรรมนี้ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนของประเทศในการพัฒนาความสามารถทางด้านกีฬา และที่สำคัญยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีให้กับเยาวชน ซึ่งตรงกับนโยบายของทาง สพฐ. ผมเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนกีฬาวิ่ง 31 ขา นี้ จะส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกฝนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้เรียนรู้ด้วยตนเองถึง การอดทน รู้แพ้ รู้ชนะ และหล่อหลอมความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่เยาวชนได้อย่างเป็นรูปธรรม สพฐ. มีความยินดีและเป็นเกียรติยิ่งที่ได้ร่วมกับทาง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ขับเคลื่อนโครงการเพื่อเยาวชนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียนที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไป และขอขอบคุณทุกๆโรงเรียนทั้ง 30 ทีมที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันฝ่าฟันจนผ่านเข้ามาถึงในรอบชิงแชมป์ประเทศได้ ขอให้นักกีฬาทุกคนได้แสดงความสามารถให้เต็มที่ และได้เป็นแชมป์ประเทศไทย ตามที่ตั้งใจไว้"
ขณะที่ นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า "ภายใต้โครงการ เอ.พี. ฮอนด้า จุดพลังฝัน เรามีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ คืนสู่สังคมในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อเยาวชน อย่างเช่นการแข่งขันวิ่ง 31 ขาสามัคคี ซึ่งเป็นกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างทั้งร่างกาย จิตใจและความคิด ทำให้เยาวชนรู้จักความสามัคคี ความเสียสละ การทำงานเป็นทีม และความเป็นผู้นำ ซึ่งจะทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าเพื่อเป็นรากฐานไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป สำหรับในปีที่ 12 นี้ ได้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 843 ทีม จาก 826 โรงเรียนทั่วประเทศ ขอชื่นชมนักกีฬาเยาวชนทุกคนในที่นี้ ที่สามารถรวมพลังสามัคคีฟันฝ่าอุปสรรคจนสามารถผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้ายได้ และขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เครือข่ายร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ผู้บริหารสถานศึกษาและคณาจารย์ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมนี้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด"
โดยเยาวชนทั้ง 30 ทีม เป็นจำนวนกว่า 1,200 คน ที่โชว์พลังสามัคคีคว้าโควตาผ่านเข้าชิงชัยในรอบชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งนี้ ประกอบด้วย ภาคกลาง 8 ทีม ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลบ่อทอง จ.ชลบุรี, โรงเรียนวัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร ,โรงเรียนบ้านเขารวก (ร่วมมิตรพัฒนา) จ.สระบุรี, โรงเรียนวัดอ้อมน้อย (มิตรครูราษฎร์รังสรรค์) จ.สมุทรสาคร, โรงเรียนหน้าพระลาน(พิบูลสงเคราะห์) จ.สระบุรี, โรงเรียนวัดนางแก้ว จ.ราชบุรี, โรงเรียนวัดสาลวนาราม ทีม A จ.กาญจนบุรี, โรงเรียนศึกษาสรรค์ จ.สมุทรปราการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 ทีม ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลทุ่งฝน จ.อุดรธานี, โรงเรียนเมืองอำนาจเจริญ ทีม A จ.อำนาจเจริญ, โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ จ.กาฬสินธุ์, โรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ จ.บึงกาฬ, โรงเรียนบ้านลองตอง ทีม A จ.นครราชสีมา, โรงเรียนบ้านต้องหนองสระปลา จ.อุดรธานี, โรงเรียนบ้านอ่างหิน(เพียรพิทยาคาร) ทีม Aจ.อุบลราชธานี, โรงเรียนบ้านโคก จ.ศรีสะเกษ, โรงเรียนวัดโชติการาม จ.นครราชสีมา, โรงเรียนบ้านหนองบัวบาน(บัวบานวิทยาคม) ทีม A จ.สุรินทร์, โรงเรียนบ้านหินดาด ทีม A จ.นครราชสีมา ภาคเหนือ 7 ทีม ได้แก่ โรงเรียนบ้านริมใต้ ทีม A จ.เชียงใหม่, โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน, โรงเรียนอนุบาลศรีสัชนาลัย (บ้านหาดสูง) จ.สุโขทัย, โรงเรียนบ้านเวียงหมอก จ.เชียงราย,โรงเรียนบ้านปากกาง (ประชาราษฎร์รังสฤษฏ์) จ.แพร่, โรงเรียนอนุบาลแพร่ จ.แพร่, โรงเรียนท่าปลาอนุสรณ์ 1 จ.อุตรดิตถ์ และภาคใต้ 4 ทีม ได้แก่ โรงเรียนอามานะศักดิ์ จ.ปัตตานี, โรงเรียนมานิตานุเคราะห์ จ.สุราษฎร์ธานี, โรงเรียนบ้านแม่ขรี (สวิงประชาสรรค์) จ.พัทลุง, โรงเรียนชุมชนบ้านช่องม้าเหลียว จ.สุราษฎร์ธานี
ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมที่โชว์พลังสามัคคีวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยความเร็วที่สุดตกเป็นของทีมโรงเรียนอนุบาลทุ่งฝน จ.อุดรธานี โดยมีหัวหน้าทีมคือ ด.ญ. นพรัตน์ สมบัติกำไร สนับสนุนโดยบริษัท รุ่งเรืองอินเตอร์ (2008) จำกัด ด้วยเวลา 9.03 วินาที ครองเจ้าแห่งความเร็วและความสามัคคี ผงาดคว้าแชมป์ระดับประเทศไทยในกิจกรรม สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า วิ่ง 31 ขาสามัคคีปี ประจำปีที่ 12 ได้สำเร็จ พร้อมครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลและสถาบันการศึกษา รวมถึงเหรียญรางวัล และเงินสนับสนุนการแข่งขัน จำนวน 30,000 บาท
ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีมโรงเรียนเมืองอำนาจเจริญ ทีม A จังหวัดอำนาจเจริญ สนับสนุนโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดเกียรติสุรนนท์อำนาจเจริญ วิ่งสามัคคีเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 9.06 วินาที รับถ้วยรางวัลและเงินสนับสนุนการแข่งขัน จำนวน 20,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศลำดับที่ 3 -5 ทีมจะได้รับถ้วยรางวัล และเงินสนับสนุนการแข่งขันจำนวนทีมละ 20,000 บาท รองชนะเลิศลำดับที่ 6-10 จะได้รับถ้วยรางวัล และเงินสนับสนุนการแข่งขันจำนวนทีมละ 10,000 บาท รองชนะเลิศลำดับที่ 11-30 จะได้รับเงินสนับสนุนการแข่งขันจำนวนทีมละ 5,000 บาท และนอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ 2 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลทีมแต่งกายยอดเยี่ยม ได้แก่ทีมโรงเรียนอนุบาลศรีสัชนาลัย (บ้านหาดสูง) จังหวัดสุโขทัย และรางวัลทีมกองเชียร์ดีเด่น ได้แก่ทีมโรงเรียนเมืองอำนาจเจริญ ทีม A จังหวัดอำนาจเจริญ โดยทั้ง 2 ทีมได้รับเงินสนับสนุนรางวัลละ 5,000 บาท
สำหรับกติกาการแข่งขันและคุณสมบัตินักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันนั้น ในแต่ละทีมจะต้องประกอบไปด้วยนักกีฬาตัวจริง 30 คน นักกีฬาตัวสำรอง 4 คนและต้องมีผู้นำทีม (หัวหน้าทีมที่เป็นนักเรียน) 1 คน ครูผู้ควบคุมการฝึกซ้อม 1-3 คน ซึ่งนักกีฬาทั้งหมดจะต้องเป็นทีมนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนเดียวกันในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 อายุระหว่าง 10-12 ปี โดยนักกีฬาในทีมสามารถเป็นทีมชายล้วน หญิงล้วน หรือผสมชาย-หญิงก็ได้ กติกาการแข่งขันในแต่ละทีมต้องมีนักกีฬาจำนวน 30 คน ผูกขาติดกัน แล้ววิ่งเป็นระยะทาง 50 เมตร นักกีฬาแต่ละทีมสามารถวิ่งได้ 2 ครั้ง คณะกรรมการจะบันทึกเวลาครั้งที่ดีที่สุดของแต่ละทีม จากนั้นคัดเลือกทีมที่สามารถทำสถิติเวลาได้ดีที่สุดเป็นจำนวนตามสัดส่วนของแต่ละภาค รวม 30 ทีมจาก 4 ภาค เข้าสู่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ เพื่อลุ้นการเป็นแชมป์ประเทศไทยและรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลและสถาบันการศึกษา
ทั้งนี้ในปัจจุบันนี้สถิติโลกที่ Guinness World Records บันทึกไว้ เป็นสถิติของทีมโรงเรียนศิลปะป้องกันตัวเส้าหลินต้ากั่ว จากประเทศจีน ที่ทำเวลาได้ 08.41 วินาที ขณะที่สถิติของประเทศไทยยังเป็นของทีมโรงเรียนชลประทานผาแตก จ.เชียงใหม่ ที่ทำเวลาได้ 8.53 วินาที โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/honda31legs
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit