ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดหนังสือดีเด่นประจำปี 2560 และพระราชทานพระราชดำรัสเปิดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15 ความว่า
"ขอแสดงความชื่นชมในความมุ่งมั่นของคณะผู้จัดงาน ที่ร่วมมือกันอย่างแข็งขันจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติต่อเนื่องทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังวัฒนธรรมการอ่านให้แพร่หลายในสังคมไทย ด้วยจิตเจตนาที่จะสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งปัญญาที่เกิดจากการอ่านหนังสือ งานทุกครั้งมีผู้เข้าชมจำนวนมาก ที่ตั้งใจมาเลือกซื้อหนังสือตามความสนใจ แสดงให้เห็นว่า แม้การอ่านจะมีวิวัฒนาการมาจนถึงขั้นอ่านได้จากอุปกรณ์สื่อสารเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ยังมีคนอีกมากที่นิยมอ่านหนังสือเล่มที่ให้รสชาติและความรู้สึกของการอ่านอย่างแท้จริง ในปัจจุบันหนังสือดีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งที่ให้ความรู้ ที่ช่วยเสริมสร้างความคิด และแรงบันดาลใจ ที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ หรือที่ให้ความรื่นรมย์ใจ สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาศาสตร์ต่างๆ อย่างละเอียดลุ่มลึก ก็มีหนังสือที่เป็นตำรับตำราให้เลือกสรรสืบค้น หนังสือจึงยังเป็นของมีค่า เป็นที่ต้องใจนักอ่านมาตลอด ตั้งแต่เริ่มแรกที่มีหนังสือเกิดขึ้น"
จากนั้นเสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆและร้านจำหน่ายหนังสือภายในงาน
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า "งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15 (45th National Book Fair and 15thBangkok International Book Fair 2017) ในปีนี้นอกจากจะมีสำนักพิมพ์ไทยเข้าร่วมงานกว่า 430 แห่ง รวมทั้งสิ้น 947บูธ บนพื้นที่ประมาณ 21,000 ตารางเมตรแล้วนั้น ยังได้รับเกียรติจาก "ประเทศฟินแลนด์" เข้าร่วมงานในฐานะ ประเทศรับเชิญเกียรติยศ (Guest of Honor) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งประเทศฟินแลนด์ด้วยกิจกรรม "The Joy of Reading – Key to Lifelong Learning" โดยนำเสนอหนังสือหลากหลายประเภทส่งตรงจากฟินแลนด์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวรรณกรรมและงานออกแบบต่างๆ พร้อมส่งเสริมการอ่านด้วยมุมอ่านหนังสือ ซึ่งถือเป็นการเปิดโลกการอ่านให้คนไทยได้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายของหนังสือ และวัฒนธรรมการอ่านซึ่งนำไปสู่การศึกษาที่เข้มแข็งในอีกซีกโลก
"ในฐานะองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการอ่านนั้น เล็งเห็นว่าหนังสือและการอ่านถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างประเทศอย่างมั่นคง และนำไปสู่การพัฒนาในทิศทาง "ไทยแลนด์ 4.0" ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย หรือโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ เพราะการอ่านสามารถสร้างคนที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นได้ เพราะคนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของการที่จะพัฒนาประเทศในทิศทางต่างๆ" นายจรัญกล่าว
ในส่วนของนิทรรศการไฮไลท์ซึ่งเป็นจุดเด่นของงานสัปดาห์หนังสือฯในทุกครั้งนั้น ปีนี้คือ "นิทรรศการ หนังสือที่รฦกงานศพ: มรดกวัฒนธรรมประจำชาติ" โดยร่วมกับสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีไฮไลท์เด่น คือ หนังสือที่ระลึกงานพระบรมศพ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" "พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว" และ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล" ซึ่งมีการจัดแสดงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก รวมถึงหนังสือที่ระลึกงาน พระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ หนังสือที่ระลึกงานศพของข้าราชการ บุคคลทั่วไป และหนังสือที่ระลึกงานศพที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดพิมพ์ด้วย
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ นิทรรศการสื่อ 60 พรรษา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เพื่อเผยแพร่สื่อ 60 พรรษา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามแนวพระราชดำริในการจัดทำสื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล และโรงเรียนที่จัดการสอนแบบคละชั้น นิทรรศการหนังสือดีเด่น ประจำปี 2560 นิทรรศการการประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2560 เพื่อส่งเสริมการประกวดวรรณกรรมแนวการเมือง และการแสดงภาพเขียนสีน้ำมัน "9ทศวรรษ ฉัตรชัยประชา" ของ เปี๊ยก โปสเตอร์ (สมบูรณ์สุข นิยมศิริ) ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2558 สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) จัดโดยชมรมวิจารณ์บันเทิง นำภาพมาพิมพ์เป็นหนังสือด้วยกระดาษวาดเขียน จำนวน 13 ภาพ ที่ควรค่าแก่การเก็บสะสมอีกด้วย และรายได้ทั้งหมดจะมอบให้แก่ เปี๊ยก โปสเตอร์ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
ด้านโครงการ "๑ อ่าน ล้านตื่น" ที่สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องนั้น ในปีนี้ได้มีแคมเปญ"อ่านช่วยใต้" ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดซื้อหนังสือให้กับห้องสมุดตามโรงเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทางภาคใต้ เพียงโพสต์ภาพถ่ายท่าอ่านหนังสือสุดโปรดตามแบบฉบับของตัวเองใน Social Network (IG, FB, Twitter) พร้อมแฮชแท็ก #สัปดาห์หนังสือครั้งที่45 #อ่านเล่นท่า หรือ #อ่านช่วยใต้ (จะติดทั้ง 3 คำ หรือเลือกคำใดคำหนึ่งก็ได้) และตั้งค่าโพสต์นั้นเป็นสาธารณะ หากทำตามกติกาที่กำหนดไว้ทั้งหมด ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะสมทบทุนให้ทันทีรูปละ 10 บาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 และรายได้ทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนการจัดซื้อหนังสือให้กับห้องสมุดโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยจำนวน 50 แห่ง ในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคใต้ต่อไป
"แม้ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ก็มีหนังสือออกใหม่ในงานนี้กว่า 350 ปก และเชื่อมั่นว่าจะมีผู้ร่วมชมงานสัปดาห์หนังสือฯไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านคน ซึ่งจะสามารถช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับสำนักพิมพ์ต่างๆได้อีกด้วย โดยเฉพาะสำนักพิมพ์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนทำหนังสือด้วยใจรัก จากสภาวะปัจจุบันคาดว่าต่อไปการทำหนังสือจะเป็นธุรกิจที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยหนังสือที่เป็นกระดาษยังอยู่ได้โดยมีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ปริมาณหนังสือลดลง และราคาไม่ได้เป็นปัจจัยตัดสินใจหลักในการตัดสินใจซื้ออีกต่อไป"
ขณะนี้หนังสือที่ขายดีในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นแนวนวนิยายประเภทต่างๆ แนววัยรุ่น แนวพัฒนาความรู้ และมีอีกประเภทที่เติบโตอย่างน่าสนใจคือหนังสือคู่มือแบบเรียน
"สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15 จัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 29 มีนาคม - วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560 รวมทั้งสิ้น 12 วัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"
เตรียมตัวให้พร้อม มาหอบความสุข พกความรู้กลับบ้านด้วยกัน
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit