– ข้อตกลงนี้แสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งย่างก้าวที่สำคัญตามแผนควบรวมกิจการระหว่างดูปองท์และดาวช่วยเสริมศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าเชิงกลยุทธ์ภายหลังการรวมกิจการ
– คาดว่าการควบรวมธุรกิจจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนสิงหาคม
วันนี้ ดูปองท์ (Dupont, NYSE: DD) ประกาศการเข้าสู่ข้อตกลงร่วมธุรกิจกับเอฟเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (FMC Corporation, NYSE: FMC) เพื่อขายธุรกิจคุ้มครองพืชผล รวมถึงส่วนงานวิจัยและพัฒนาเพียงบางส่วน พร้อมซื้อส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์และสารอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหมดของเอฟเอ็มซี ข้อตกลงนี้เหล่านี้มีผลให้ดูปองท์ได้รับค่าต่างตอบแทนเป็นมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อชดเชยผลต่างของมูลค่าสินทรัพย์ที่เป็นเงินสดจำนวน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท) และเงินทุนหมุนเวียน 425 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.46 หมื่นล้านบาท) การซื้อขายส่วนธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดที่ดูปองท์มีต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission (EC) ซึ่งเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมสู่การอนุมัติข้อเสนอการควบรวมธุรกิจระหว่างดูปองท์และดาว
"เราเชื่อว่าข้อตกลงนี้เป็นความลงตัวที่เยี่ยมยอดที่จะเอื้อประโยชน์สูงสุดให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ถือหุ้นของเรา ลูกค้าของเรา และพนักงานของเรา" นายเอ็ดเวิร์ด ดี บรีน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ดูปองท์กล่าว "บริษัทด้านการเกษตรอิสระที่เราตั้งใจจะให้ถือกำเนิดใหม่จะยังคงได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องเต็มที่จากความร่วมมือเพื่อเสริมพลังซึ่งกันและกันระหว่างดูปองท์และดาวในครั้งนี้ เราจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้กว้างขึ้น มีกระบวนงานปฏิบัติที่เข้มแข็งขึ้น ทั้งในเรื่องเชื้อพันธ์พืช งานด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และการคุ้มครองพืชผล มันจะเป็นการมอบนวัตกรรมตลอดจนทางเลือกที่มากกว่าให้แก่เกษตรกรทั่วโลก ในขณะเดียวกัน มันจะเป็นการเสริมประสิทธิภาพงานด้านผลิตภัณฑ์และสารอาหารเพื่อสุขภาพของเราอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญที่จะสร้างโอกาสและการเติบโตให้กับบริษัทใหม่ ที่จะเป็นบริษัทอิสระและนำเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะทางของเรา"
พร้อมกันนี้ นายเอ็ดเวิร์ดยังได้กล่าวสรุปอีกว่า "ข้อตกลงกับเอฟเอ็มซีนี้มอบประโยชน์ให้ทุกฝ่าย ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน ผลักดันให้กระบวนการอนุมัติจากระเบียบข้อบังคับต่างๆ รุดหน้ายิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องตามกรอบกลยุทธ์ เสริมศักยภาพในการสร้างมูลค่าจากการควบรวมธุรกิจกับดาว และตรงกับแนวทางในอนาคตที่จะก่อให้เกิดบริษัทอิสระสามแห่งตามที่เราได้ตั้งเป้าไว้"
ยังคงเป็นที่คาดการณ์ว่า การควบรวมธุรกิจในครั้งนี้จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องทุนได้โดยมีมูลค่าสูงถึงราว 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณหนึ่งแสนสามพันล้านบาท) และเสริมศักยภาพในการเติบโตมูลค่าราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท)
การขายทอดธุรกิจคุ้มครองพืชผลบางส่วนของดูปองท์
ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงนี้ เอฟเอ็มซีจะซื้อกิจการด้านสารกำจัดวัชพืช (Cereal Broadleaf Herbicides) และสารกำจัดแมลง (Chewing Insecticides) ของดูปองท์ รวมถึงส่วนของ Rynaxypyr®, Cyazypyr® และ Indoxacarb นอกจากนั้น เอฟเอ็มซียังจะซื้อกิจการส่วนงานวิจัยและพัฒนาด้านการคุ้มครองพืชผลบางส่วนของดูปองท์ โดยไม่รวมในส่วนของการบำรุงเมล็ดพันธุ์พืช สารกำจัดใส้เดือนฝอย และโครงการวิจัยและพัฒนาขั้นสุดท้าย ที่ทางดูปองท์จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด และไม่รวมถึงบุคลากรที่จำเป็นสำหรับดูแลผลิตภัณฑ์ในตลาด และงานด้านวิจัยและพัฒนาของบริษัทฯ ซึ่งยังคงต้องอยู่กับดูปองท์ต่อไป ในส่วนสินทรัพย์ของธุรกิจที่ขายกิจการนั้น เมื่อปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2559) สามารถทำรายได้มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยประมาณ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 4.8 หมื่นล้านบาท
โดยหลังจากการซื้อขายธุรกิจเป็นที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หน่วยการเกษตรของบริษัทที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการนั้นจะมีทรัพยากรที่แข็งแกร่งในด้านธุรกิจคุ้มครองพืชผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการควบคุมวัชพืชข้าวโพดและถั่วเหลือง สารกำจัดศัตรูธัญพืช อีกทั้งยังได้รับประโยชน์เต็มที่จากรากฐานที่แข็งแกร่งของดูปองท์ในเรื่องการควบคุมโรค และความเป็นผู้นำด้านวิทยาการเกษตรของดาวในเรื่องการกำจัดแมลง ส่วนธุรกิจการเกษตรใหม่หลังการรวมธุรกิจจะยังคงมีฝ่ายวิจัยและพัฒนาที่เชี่ยวชาญ มีโครงสร้างที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างรวดเร็ว เสริมด้วยแรงขับเคลื่อนที่เข้มแข็งทั้งในด้านเมล็ดพันธุ์และเคมีภัณฑ์ เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ทำการเกษตรทั่วโลกได้อย่างดี ด้วยโซลูชั่นนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า มีทางเลือกได้มากกว่า ในราคาที่คุ้มทุนยิ่งกว่า
การซื้อส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์และสารอาหารเพื่อสุขภาพของเอฟเอ็มซี
ส่วนหนึ่งในข้อตกลงภายใต้การควบรวมกิจการของดูปองท์และดาวคือ ดูปองท์จะซื้อส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์และสารอาหารเพื่อสุขภาพของเอฟเอ็มซี ซึ่งเป็นส่วนงานที่สามารถสร้างรายได้มูลค่ากว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 2.4 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2559) ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากสองส่วนสำคัญ อันได้แก่ ธุรกิจสารปรุงแต่งสำหรับผสมอาหาร และธุรกิจสารเติมเนื้อยา ส่วนธุรกิจนี้จะสามารถเสริมกิจการด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีอยู่ของดูปองท์ได้อย่างลงตัวที่สุด เป็นการผนึกกำลังให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจัดหาผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มฐานรากของบริษัทให้มั่นคงกว้างไกลยิ่งขึ้น
ธุรกิจสารอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของดูปองท์เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมส่วนประกอบอาหาร โดยการใช้วัตถุดิบที่ผ่านการคัดสรรและสามารถสร้างทดแทนใหม่ได้ เพื่อสร้างสรรค์ส่วนผสมที่ครอบคลุมให้ผู้ผลิตอาหารสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้อย่างปลอดภัยขึ้น ถูกหลักอนามัยยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีอาหารและเครื่องดื่มที่เปี่ยมไปด้วยสารอาหารในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น การควบรวมธุรกิจนี้จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับดูปองท์ในการเข้าถึงระบบและผลิตภัณฑ์ที่สำคัญด้านสารผสมอาหาร ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้ทันต่อความต้องการในอุตสาหกรรมด้านสารปรุงแต่งอาหารและยาที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการเข้าถึงช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับบริษัทฯ อีกด้วย ผลสุดท้ายที่จะได้ก็คือ กิจการด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของดูปองท์จะมีฐานรากที่เข้มแข็งเพื่อผลักดันความเติบโตในภายภาคหน้า มีการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในด้านงานวิจัยและพัฒนา และสามารถมอบสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วโลกได้มากกว่า และตรงใจกว่า
การซื้อขายกิจการระหว่างเอฟเอ็มซีนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการควบรวมกิจการระหว่างดูปองท์และดาว ตลอดจนข้อกำหนดและระเบียบเงื่อนไข รวมไปจนถึงการได้รับอนุมัติจากกฏหมายควบคุมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในข้อตกลงทางธุรกิจกับเอฟเอ็มซี ทางดูปองท์และดาวจึงได้แก้ข้อตกลงในสัญญาควบรวมกิจการของสองบริษัท เพื่อขยายช่วงเวลา "Outside Date" ไปถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2560 และคาดว่าทั้งสองบริษัทจะสามารถเสร็จสิ้นกระบวนการควบรวมธุรกิจได้ภายในช่วงระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2560 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ข้อบังคับ และการได้รับอนุมัติจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บริษัททั้งสองยังคงคาดว่าการแตกบริษัทใหม่จะมีขึ้นภายใน 18 เดือนหลังจากที่กระบวนการควบรวมธุรกิจเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ดาวและดูปองท์ยังได้ประกาศเผยร่วมกันอีกว่า บริษัทใหม่ที่คาดว่าจะแตกออกมาเป็นบริษัทแรกหลังการควบรวมกิจการ จะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านวัสดุศาสตร์ (Material Science)
ที่ปรึกษาทางการเงินของดูปองท์สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในเรื่องนี้ คือ Evercore และ Goldman, Sachs & Co. โดยมี Skadden, Arps, Slate, Meagher & Flom LLP เป็นที่ปรึกษาทางด้านกฏหมาย
ดูปองท์ได้จัดประชุมร่วมและทำการแพร่ภาพผ่านทางเว็บไซต์ในวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 ในเวลา 09.00 น. (ตามเวลามาตรฐานตะวันออก) เพื่อเผยความคืบหน้าในเรื่องนี้ โดยท่านสามารถเข้าดูการแพร่ภาพผ่านทางเว็บไซต์และข้อมูลที่จัดแสดงต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์สำหรับนักลงทุนของบริษัทฯ ได้ที่ www.investors.dupont.com และสามารถเลือกรับฟังบทสนทนาในการประชุมทางโทรศัพท์ผ่านทางเว็บไซต์ย้อนหลังได้ตลอดช่วงเวลา 90 วัน ด้วยการโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1 (630) 652-3042 รหัสผ่าน 6596503# สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของศูนย์บริการผู้ลงทุนที่ http://www.dupont.com.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit