นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา กล่าวว่า อยากให้พี่น้องสื่อมวลชนมองย้อนหลังไปที่การประมูลที่เบสทรินเป็นฝ่ายชนะ ทางผู้ใหญ่หลายท่านไม่ว่าจะเป็นองค์การต่อต้านคอรัปชั่นประเทศไทย รมต.คมนาคม และบอร์ด ขสมก.ตรวจสอบและยืนยันตรงกันแล้วว่า ระบบระเบียบขั้นตอน ทีโออาร์ และการลงนามในข้อตกลงคุณธรรม นั้นถูกต้องตามเจตนารมณ์ของท่านนายกฯแล้ว แต่เหตุที่วันนี้บริษัทฯ ไม่สามารถนำส่งรถเอ็นจีวี 489 คันให้ ขสมก.ได้ตามกำหนด ก็เพราะกรมศุลกากร มีข้อสงสัย และสงสัยว่า ถิ่นกำเนิดรถไม่ได้อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ทั้งที่วันนี้สิ่งที่เราเห็นหลักฐานก็มีเพียงรูปภาพหรือคลิปวีดีโอ ซึ่งเป็นเพียงพยานแวดล้อมเท่านั้น
แต่เหตุผลที่ไม่มีการลงนามจัดซื้อกับผู้ชนะเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ เป็นเหตุมาจาก คุณสมบัติของผู้ชนะขัดต่อทีโออาร์ เป็นเหตุให้คณะกรรมการคุณธรรมที่แต่งตั้งตามเจตนาของท่านนายกฯ รับไม่ได้ถึงกับลาออกไม่ขอร่วมนิติกรรมด้วยถึง 2 ท่าน ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมกับพี่น้องสื่อมวลชนว่า วันนี้บริษัทเบสทรินได้ตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นเพียงแค่ข้อกล่าวหา ข้อสงสัย หรือสงสัยว่าของกรมศุลกากรเท่านั้น ตนเชื่อว่ามีขบวนการที่ไม่หวังดีที่มีความอาฆาตจองเวรจ้องล้มการประมูลครั้งนี้ลงให้ได้ หวังให้มีการเปิดประมูลอีกรอบ พยายามยัดเยียดกล่าวหาว่า การที่เบสทรินเป็นฝ่ายชนะเพราะมีผลประโยชน์มีสินบน และมีผู้ใหญ่ไปกดดันการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ผมว่า " มโน" ไปเอง
ผมขอตั้งคำถามกลับกับ พี่น้องสื่อมวลชนว่า "ถ้าการประมูลครั้งนี้ไม่โปร่งใสจริง มีการคอรัปชั่นจริง มีการจ่ายใต้โต๊ะจริง หรือมีผู้ใหญ่หนุนหลังกดดันกรมศุลฯ จริงๆ ป่านนี้เบสทรินได้ส่งมอบรถเอ็นจีวี ไปเรียบร้อยแล้ว "นายคณิสสร์ กล่าวในที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit