นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า "เอสซีจี"ในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้างในปีนี้ค่อนข้างทรงตัว อย่างไรก็ตามยังมองเห็นปัจจัยบวก 3 ปัจจัย ได้แก่ การลงทุนพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐส่งผลให้เมืองขยายตัว ทำให้เกิดการก่อสร้างบ้าน และคอนโดมิเนียมตามมา อีกทั้งยังเริ่มเห็นปัจจัยบวกจากการที่ผู้บริโภคบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 50,000 บาท ได้ปลดภาระผ่อนหนี้ในโครงการรถคันแรกไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และปัจจัยบวกจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ยางพารา ปาล์ม อ้อย เป็นต้น ส่งผลให้ในปีนี้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยบวกในตลาดดังที่ได้กล่าวมา ทิศทางการดำเนินธุรกิจของวัสดุก่อสร้างเอสซีจี ปี 2560 จึงเดินหน้าจัดแคมเปญการตลาดเพื่อคืนกำไรและกระตุ้นการซื้อในกลุ่มผู้บริโภคครอบคลุมทุกกลุ่มตลอดทั้งปี ทั้งกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านใหม่ และกลุ่มที่ต้องการรีโนเวทบ้านเก่า ประเดิมด้วยการจัดแคมเปญโปรโมชั่น "SCG Family Festival ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม ลุ้นเที่ยวฟรี" ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าอย่างครบชุดเป็นระบบ โดยนำวัสดุก่อสร้างที่ลูกค้านิยมซื้อเป็นคู่ หรือเป็นระบบ มาจัดเป็นชุดสินค้าราคาพิเศษ 5 เซ็ต ได้แก่ เซ็ตคู่สุดคุ้ม คือสินค้าที่แนะนำให้ใช้คู่กัน เช่น กระเบื้องหลังคาและอุปกรณ์หลังคา, เซ็ตระบบหลังคา ตอบทุกสไตล์แบบบ้าน, เซ็ตบ้านเย็น, เซ็ตบ้านเงียบ และเซ็ตบ้านปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้สินค้าเป็นระบบอย่างถูกต้อง ทั้งยังได้สินค้าราคาพิเศษ พร้อมสิทธิ์ลุ้นทริปพิชิตแสงเหนือ ณ ประเทศไอซ์แลนด์ สำหรับลูกค้าที่มีแผนสร้างบ้านสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤษภาคม 2560 ที่เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์, เอสซีจี โฮมโซลูชั่น และร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจีที่ร่วมรายการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอสซีจี คอนแทค เซ็นเตอร์ 02 586 2222 หรือคลิกเว็บไซต์ www.scgbuildingmaterials.com ทั้งนี้ครึ่งปีหลังจะมีแคมเปญการตลาดสำหรับลูกค้าที่ต้องการรีโนเวทบ้าน และมีแคมเปญการตลาดอื่นๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมถึงการร่วมออกบูธจัดแสดงนวัตกรรมสินค้า พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้า ในงานสถาปนิก 60 และงานบ้านและสวนแฟร์ 60 อีกด้วย
นอกจากการเดินหน้าจัดแคมเปญเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในกลุ่มผู้บริโภค "เอสซีจี" ยังได้เตรียมเดินหน้าวิจัยและเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต จึงเกิดเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างที่อยู่อาศัย แบบ "Performance Based" คือการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกันเป็นระดับขั้น เพื่อความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยเน้นPerformance การอยู่อาศัย 3 ด้านหลัก ได้แก่ "Living Comfort Performance: การสร้างสภาวะอยู่สบาย" พัฒนาการอยู่อาศัยให้อยู่สบายมากยิ่งขึ้นในทุกด้าน โดยสภาวะอยู่สบายที่ดี ที่เรามุ่งเน้นจะประกอบไปด้วย บ้านที่มีอุณหภูมิภายในบ้านเหมาะสมไม่เกิดการกักเก็บความร้อน มีสภาพการระบายอากาศที่ดีทั้งหลัง เพื่อลดสภาวะความอบอ้าวและลดปัญหาอากาศไม่หมุนเวียน และไม่มีปัญหามลภาวะทางเสียงจากภายนอก โดยเราจะมี Performance ของเทคโนโลยีในแต่ละเรื่อง เพื่อสร้างสภาวะอยู่สบายภายในบ้านได้หลายระดับ เป็นต้น "Care Performance: เพื่อทุกเพศทุกวัยอยู่ร่วมกันได้" การพัฒนาโซลูชั่นที่จะสามารถตอบโจทย์สมาชิกทุกเพศ ทุกวัยภายในบ้าน ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัย และสะดวกสบาย และ "ECO Saving Performance: ลดการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย" การพัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้าง ระบบและวัสดุต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานสถาปนิก 60 ระหว่างวันที่ 2-7 พ.ค. นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมเดินหน้าแนะนำสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ปัจจุบันมีเอสซีจี โฮมโซลูชั่น จำนวน 41 สาขา สามารถมอบโซลูชั่นและบริการที่มีคุณภาพและครบวงจรที่สุดให้กับลูกค้า เพียงถือแบบก่อสร้างเข้ามารับคำปรึกษา ประมาณราคาวัสดุ ติดตั้งแบบครบวงจร และรับประกัน นอกจากนี้ยังมี เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมความรู้ให้คำปรึกษาทุกขั้นตอนของการสร้างบ้าน เป็นแหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับที่อยู่อาศัย ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงก่อนการตัดสินใจ และ SCG Authorized Dealer จำนวนกว่า 356 สาขา นอกจากนี้ยังเดินหน้ารุกช่องทางจำหน่ายอี-คอมเมิร์ซ ที่สะดวก รวดเร็ว และวางใจได้ โดยพัฒนาระบบการขายผ่านเว็บไซต์www.scgshoppingexperience.com ปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้าบนเว็บกว่า 2,500 รายการ ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มสินค้าแลนด์สเคป และกลุ่มสินค้าเอสซีจี เอลเดอร์แคร์ โซลูชั่น
"จากกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ ช่องทางการจัดจำหน่าย ตลอดจนกิจกรรมการตลาดที่คำนึงลูกค้าเป็นหลัก เรามั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีในปีนี้เติบโต 1-3% ไปในทิศทางเดียวกับตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตด้วยปัจจัยบวกต่างๆ ดังที่กล่าวมา
นอกจากภาคธุรกิจแล้ว ในด้านส่งเสริมสังคมทางเอสซีจีไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องภาคใต้ โดยได้ให้ความช่วยเหลือใน 3 รูปแบบ คือการช่วยเหลือเร่งด่วน อาทิ มอบสุขากระดาษ ถุงยังชีพ อุปกรณ์กู้ภัยเบื้องต้น หินคลุก ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตปูนซีเมนต์เพื่อนำไปถมพื้นที่ การช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยจัดพิมพ์คู่มือซ่อมบ้านสร้างสุข จำนวน 50,000 เล่ม แจกฟรีผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างโซนภาคใต้ นำพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บ้านนาเปลี่ยน การช่วยเหลือซ่อมแซมด้านความเสียหาย มีการช่วยเหลือเรื่องสินค้าวัสดุก่อสร้างราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 30% ได้แก่ ปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ กระเบื้องหลังคา ฝา ฝ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ในวันที่ 9 ก.พ. นี้ ทางเอสซีจี จะจัดงาน "เอสซีจี รวมพลังคืนสุขชาวใต้" โดยมีศูนย์กลางการจัดงานที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ภายในงานมีการระดมประชาชนจิตอาสา เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและพนักงานเอสซีจีในภาคใต้ ร่วมลงพื้นที่ฟื้นฟูสถานที่ประสบภัย รวมถึงให้คำปรึกษาเรื่องการซ่อมแซมบ้านด้วยตนเอง แจกแบบบ้านอยู่กับน้ำเพื่อผู้ประสบภัยอีกด้วย" นายนิธิ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit