นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ในช่วงวันที่ 10 – 11 กุมภาพันธ์ 2560 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งและลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิลดลง 4 – 8 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ 2560 บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรกและอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 52 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ภาคกลาง จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครนายก ภาคตะวันออก จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุทันทีที่เกิดภัย รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างในพื้นที่สาธารณะและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ให้กำหนดมาตรการเชิงรุกป้องกันอุบัติภัยจากการท่องเที่ยว และอุบัติเหตุทางถนนจากหมอกลงจัด รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมปฏิบัติการระงับเหตุและดับเพลิงทันทีเมื่อเกิดอัคคีภัย ตลอดจนบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวจังหวัด โดยให้ความสำคัญกับการดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนแก่กลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ อาทิ ผู้สูงอายุ เด็กไร้ผู้อุปการะ คนพิการทุพพลภาพ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาว สำหรับประชาชนขอให้ดูแลรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟเป็นพิเศษ เพราะช่วงฤดูหนาวมีสภาพอากาศแห้ง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนเกษตรกรควรจัดทำที่กำบังปกคลุมพืชผลการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากลมพัดแรง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสภาพอากาศหนาวเย็นและลมพัดแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit