โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย ส่งเสริมรัฐบาลไทย ผลักดันนโยบายประเทศเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน

23 Feb 2017
"ส่งตรงระบบการศึกษาชั้นนำจากประเทศอังกฤษสู่ประเทศไทย" โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย เป็นเพียงโรงเรียนเดียวจากไทยที่ได้รับพิจารณาเข้ารับรางวัล บริติช อินเตอร์เนชั่นแนล สกูล อวอร์ด 2017 สาขา "หลักสูตรการสอนที่มีความสร้างสรรค์ดีเยี่ยมแห่งปี"
โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย ส่งเสริมรัฐบาลไทย ผลักดันนโยบายประเทศเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน

โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย โรงเรียนนานาชาติในไทยที่ใช้หลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ประเทศอังกฤษ และเป็นโรงเรียนเพียงแห่งเดียวในไทยที่เป็นเครือข่ายกับโรงเรียนบรอมส์โกรฟ ประเทศอังกฤษ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเป็นโรงเรียนต้นแบบของหลักสูตรการศึกษาที่ยอดเยี่ยม และนำมาปรับใช้เพื่อให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน รวมไปถึงแนวความคิดที่ "เด็กนักเรียนทุกคนจะได้รับการเอาใจใส่และโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกัน (no child left behind)" สนับสนุนนโยบายของภาครัฐไทยในการผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน

ในปี 2558 รัฐบาลไทยได้กำหนดนโยบายผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน[1] นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังมองหาโอกาสในการตั้งศูนย์ความร่วมมืออาเซียนเพื่อการศึกษา และยังได้นำเอาหลักสูตรการเรียนจากนานาชาติเข้ามาปรับใช้ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น[2] ดังนั้น โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย ในฐานะที่มีความพร้อมทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียน รวมไปถึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญในหลักสูตรการศึกษา จึงมองเห็นโอกาสในการสนับสนุนให้นโยบายนี้เป็นจริงและการศึกษาในประเทศไทยได้มุ่งสู่ระดับสากล

โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2545 เป็นหนึ่งในสองโรงเรียนที่ตั้งอยู่นอกสหราชอาณาจักรที่มีเครือข่ายร่วมกับโรงเรียนต้นแบบ บรอมส์โกรฟ ประเทศอังกฤษ และได้ยึดเอาธรรมเนียมปฏิบัติ และค่านิยมของโรงเรียนต้นแบบ มาปรับใช้และรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานระดับสูงมาจนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้นักเรียนประสบความสำเร็จทั้งในด้านวิชาการและการพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศ

ดร. แดเนียล คริสโตเฟอร์ มัวร์ ประธานบริหารและอาจารย์ใหญ่ แห่งโรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยมาตรฐานของโรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย เราสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่แผนการศึกษาที่มอบให้นักเรียนของเรา โดยผ่านความร่วมมือระหว่างตัวนักเรียนเอง ผู้ปกครอง และโรงเรียน นอกจากนี้ เราเชื่อว่า เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น เด็กควรจะได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะอย่างเต็มศักยภาพและประสบความสำเร็จในแบบของตนเอง"

"โปรแกรมการขยายโอกาสทางการเรียนรู้ (Extended Learning Opportunities - ELOs) และ โปรแกรมการเรียนรู้แบบอิสระ (Independent Learning Tasks - ILTs) ซึ่งนำมาใช้แทนการให้การบ้านในแบบเดิมของเรานั้น เป็นวิธีการใหม่ที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากทำการบ้านมากยิ่งขึ้น โดยนักเรียนสามารถเลือกระดับความท้าทายของการบ้านได้ ซึ่งการบ้านรูปแบบใหม่นี้ช่วยกระตุ้น สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและผู้ปกครอง และยังส่งผลให้ความรู้ในระดับวิชาการดีขึ้นอีกด้วย" ดร.มัวร์ กล่าวเสริม

และจากการบ้านรูปแบบใหม่นี้เอง จึงทำให้โรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย เป็นโรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการพิจารณาเข้าชิงรางวัล บริติช อินเตอร์เนชั่นแนล สกูล อวอร์ด 2017 สาขา "หลักสูตรการสอนที่มีความสร้างสรรค์ดีเยี่ยมแห่งปี" (British International School Awards 2017 in the category of 'Teaching Initiative of the Year')ทางโรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย มีการจำกัดจำนวนนักเรียนในแต่ละห้อง เพื่อให้ได้ขนาดห้องเรียนที่เหมาะสม และนักเรียนทุกคนจะได้รับความรู้ การเอาใจใส่ และได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมในแต่ละด้าน เช่น ในชั้นเตรียมอนุบาล (Pre-nursery) และชั้นอนุบาล (Nursery) ซึ่งเป็นปีแรกๆของการเข้ารับการศีกษา ทางโรงเรียนได้ให้สัดส่วนของผู้ใหญ่ 1 คนต่อการดูแลเด็กนักเรียน 5 คน โดยสัดส่วนนี้จะช่วยให้ครูสามารถเข้าใจความสนใจ ความสามารถในการรับรู้และเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนได้ดี จึงทำให้ครูสามารถเลือกใช้เทคนิคการสอนที่เหมาะสมแก่เด็กนักเรียนแต่ละคนได้ โดยในทุกๆชั้นเรียนจะมีครูไทยคอยให้คำปรึกษาแก่เด็กที่ยังมีปัญหาด้านการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ โดยทางโรงเรียนยังมีหลักสูตรภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือ English as an Additional Language (EAL) เสริมให้แก่เด็กนักเรียนที่ต้องการอีกด้วย

นักเรียนในโรงเรียนยังได้รับโอกาสในการเข้ารับโปรแกรมหลักสูตรพิเศษของแต่ละประเทศเพิ่มเติมหลังเลิกเรียนได้ อาทิ นักเรียนชาวเกาหลีสามารถเข้ารับโปรแกรมการศึกษาเพิ่มเติมหลังเลิกเรียนชั้นเรียนปกติ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะกลับไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทางโรงเรียนจัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐในการเพิ่มจำนวนนักเรียนชาวต่างชาติมาศึกษาที่ประเทศไทย โดยในปีการศึกษาหน้าทางโรงเรียนจะเปิดหลักสูตรพิเศษเพิ่มเติมเพื่อนักเรียนชาวจีนที่ใช้ภาษาจีนกลางเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นของโรงเรียนในขณะนี้

นอกจากนี้ เพื่อรองรับนโยบายของภาครัฐในการเพิ่มจำนวนนักเรียนชาวต่างชาติให้มาศึกษาที่ประเทศไทยมากขึ้น ทางโรงเรียนดึงดูดนักเรียนจากทั่วโลกด้วยมาตรฐานการจัดการหอพักระดับโลก โดยดำเนินการในมาตรฐานขั้นสูงเดียวกับโรงเรียนบรอมส์โกรฟในประเทศอังกฤษ

โปรแกรมการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติบรอมส์โกรฟ ประเทศไทย นั้น ได้ใช้หลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ประเทศอังกฤษ นักเรียนจะทดสอบด้วยข้อสอบของทางเคมบริดจ์ (Cambridge) อย่าง IGCSE หรือ International General Certificate of Secondary Education และได้คะแนนสอบในระดับ AS และ A เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งใดก็ได้ในโลก

"ทางโรงเรียนจะเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเป็นพลเมืองของโลกที่มีศักยภาพได้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างคนที่มีคุณธรรม มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสุขและมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต และช่วยเติมเต็มชีวิตให้แก่ผู้คนที่อยู่รอบข้าง ด้วยการศีกษาที่ก้าวหน้าและเปิดรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆให้ทันโลกโดยที่ยังคงค่านิยมหลักของโรงเรียนอยู่ ทำให้เราสามารถบรรลุถึงวัตถุประสงค์และสร้างความสำเร็จมาถึงปัจจุบันได้" ดร. มัวร์ กล่าวปิดท้าย

โรงเรียนให้ความสำคัญกับหลักสูตรการศึกษาและการเป็นพลเมืองโลกที่ดี นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติ บรอมส์โกรฟ ประเทศไทย สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆทั่วโลกและประสบความสำเร็จในหลากหลายสาขาอาชีพ

HTML::image( HTML::image(