กสิกรไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการด้านบริหารความมั่งคั่งครบวงจร จับมือลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรระดับโลก ตั้งเป้าดัน AUM เป็น 7.7 แสนล้านบาท

24 Feb 2017
ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้ารักษาความเป็นที่หนึ่งด้านบริหารความมั่งคั่งของไทยต่อเนื่อง ต่อยอดความร่วมมือกับลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรไพรเวทแบงค์ระดับโลก ส่งมอบบริการบริหารความมั่งคั่งของบุคคลและครอบครัวครบวงจร พุ่งเป้าปี 60ขยายฐานลูกค้าสินทรัพย์สูงเป็น 10,300 คน มาร์เก็ตแชร์ 34% ของประเทศ ดันยอดสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 7.7 แสนล้านบาท
กสิกรไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการด้านบริหารความมั่งคั่งครบวงจร จับมือลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรระดับโลก ตั้งเป้าดัน AUM เป็น 7.7 แสนล้านบาท

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงทั่วโลกยังมีการเติบโตต่อเนื่อง จากรายงาน World Wealth Report 2559 สำรวจโดย Capgemini พบว่าในปี 2558 กลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูง (HNWI) ไทยและเอเชียที่ถือครองสินทรัพย์มูลค่า 35 ล้านบาทต่อรายขึ้นไปทั่วโลก จำนวนบุคคลสินทรัพย์สูงในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-11% ต่อปี สูงกว่าตลาดโลกที่โตเฉลี่ยประมาณ 9% ต่อปี ซึ่งตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ของไทยยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต แต่อาจมีอัตราส่วนที่ชะลอตัวลง เช่นเดียวกับประเทศอื่นในเอเชียแปซิฟิก

สำหรับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงที่มีสินทรัพย์มูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไปในไทย ปี 2560 ตลาดรวมคาดว่าจะมีประมาณ30,400 คน โดยลูกค้ามีแนวโน้มไว้ใจใช้บริการไพรเวทแบงค์มากขึ้น ทั้งในการจัดการเงินออมและการลงทุนที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่เป็นทั้งสินทรัพย์ส่วนตัวและสินทรัพย์ของครอบครัว เพื่อให้สามารถมองเห็นและบริหารจัดการในองค์รวมได้ จากเดิมที่นิยมแยกบริหารสินทรัพย์เป็นส่วน ๆ

ที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยให้บริการไพรเวทแบงค์ที่มีบริการตามมาตรฐานสากลที่ครบวงจรที่สุดในประเทศ โดยมีธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ จากสวิตเซอร์แลนด์เป็นพันธมิตร ร่วมพัฒนาและยกระดับให้บริการไพรเวทแบงค์ของธนาคารกสิกรไทยให้ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่

1. บริการด้านการวางแผนความมั่งคั่งและยั่งยืนของครอบครัว (Wealth Planning Services) เพื่อบริหารสินทรัพย์ของลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืนสู่รุ่นต่อ ๆ ไป นับเป็นจุดเด่นสำคัญของบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทยที่แตกต่างจากธนาคารอื่นโดยบริการประกอบด้วย การวางแผนความต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืนของครอบครัว การให้คำปรึกษาด้านการสร้างธรรมนูญครอบครัวการวางแผนโครงสร้างการถือครองสินทรัพย์ และธุรกิจครอบครัว ทั้งในและต่างประเทศ การวางแผนส่งผ่านกิจการ และทรัพย์สินจากรุ่นสู่รุ่น การจัดตั้งสำนักงานครอบครัว เพื่อดำเนินการตามแผนและอำนวยความสะดวกในการบริหารครอบครัว เป็นต้น

2. บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน (Investment Advisory Services) ทั้งภายในและภายนอกตลาดทุน โดยมีกองทุน KStrategic Global Multi Asset (K-SGM) กองทุนแรกของไทยที่ใช้หลักการกระจายความเสี่ยง ตามหลักบริหารจัดการที่ลอมบาร์ด โอเดียร์ ใช้ในการจัดการพอร์ตการลงทุนให้แก่ลูกค้าทั่วโลกเป็นกองทุนหลักในการแนะนำ ประกอบกับกองทุนต่าง ๆ ทั้งจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์อื่น ๆ ผ่านทาง Open Architecture (OA) โดยปัจจุบัน K-SGM มียอดขายสูงถึง 1.7 หมื่นล้านบาท ส่วนการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนนอกตลาดทุน เช่น การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ผ่านเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน

3. สิทธิพิเศษต่าง ๆ ทั้งทางด้านการธนาคารและการลงทุน การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการใช้ชีวิตสุดพิเศษ(Privileges) ประกอบด้วย การให้ข้อมูลด้านการลงทุน อาทิ การจัดงานสัมมนาให้ข้อมูลสถานการณ์การลงทุนทั้งตลาดในประเทศไทยและตลาดโลก รวมทั้งการจัดกิจกรรมสร้างเครือข่าย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตลอดทั้งปี

นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยรูปแบบการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าสินทรัพย์สูงในทุกมิติ พร้อมด้วยทีมงานผู้ดูลูกค้า หรือไพรเวท แบงเกอร์กว่า 50 คน เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการให้บริการ ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่า ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคารจะได้รับบริการไพรเวทแบงค์ที่ครบถ้วนที่สุดตามมาตรฐานสากล สามารถบริหารสินทรัพย์ในองค์รวมได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยในปี 2559 ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 33% จากฐานลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง10,000 คน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) 7.6 แสนล้านบาท และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์(Revenue on Asset) ได้ 0.29% สำหรับปี 2560 ธนาคารกสิกรไทยเน้นการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนของพอร์ตสินทรัพย์ โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 34% ด้วยฐานลูกค้าจำนวน 10,300 คน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) 7.7 แสนล้านบาท และสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ได้ 0.37% พร้อมตั้งเป้าหมายสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์เป็น 0.5% เทียบเท่ามาตรฐานสากล ภายใน 3 ปี ครองความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง

มร. วินเซนต์ แมกนีแนตท์ ผู้อำนวยการบริหาร ธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ เอเชีย เปิดเผยว่า ลอมบาร์ด โอเดียร์ เข้าเป็นพันธมิตรให้บริการแก่ลูกค้าไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย โดยการนำเสนอทางเลือกในการลงทุนระดับโลก ที่มีการบริหารความเสี่ยงที่มีความเฉพาะตัว สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และสามารถตอบโจทย์การบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าในระยะยาว ทั้งนี้ ลอมบาร์ โอเดียร์มีความยินดีที่จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแลลูกค้าไพรเทแบงค์ธนาคารกสิกรไทยและครอบครัวเพื่อการบริการจัดการความมั่งคั่งได้อย่างครบวงจร

HTML::image( HTML::image(