นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การดำเนินงานของโครงการ OPOAI จะมีการส่งทีมงานที่ปรึกษาของโครงการเข้าไปช่วยผู้ประกอบการในการพัฒนาเรื่องการทำงาน ในลักษณะเจาะลึกข้อมูลของสถานประกอบการการ ทั้งรูปแบบของการเข้าซักถาม การเข้าเยี่ยมสถานประกอบการ พบปะพูดคุยกับคณะผู้บริหาร เพื่อดูว่าสมควรที่จะเข้าพัฒนาในแผนงานไหนมากที่สุด และเมื่อได้ข้อสรุปแล้วทางทีมที่ปรึกษาจะมีแผน การดำเนินงานให้ปฏิบัติจริง และติดตามผลพร้อมทั้งคำปรึกษาเป็นระยะ ๆ
ทั้งนี้ประโยชน์ที่ทางสถานประกอบการได้รับโดยตรงจากการที่ทีมที่ปรึกษาเข้าไป ซึ่งเห็นเด่นชัดมากที่สุดคือ ได้รับรู้ถึงข้อบกพร่องของสถานประกอบการว่ามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิต การบริหารงาน และอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งสถานประกอบการในบางแห่งอาจจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องนั้น ๆ ขณะที่สถานประกอบการ บางแห่งได้รับการพัฒนา และแก้ไขจุดบกพร่องที่เห็นว่าสมควรต้องแก้ไข หรือแก้ไขเฉพาะจุดจริง ๆ เพื่อการเพิ่มผลผลิตได้ตรงจุด เป็นต้น
โครงการ OPOAI ในปี 2560 นี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เพิ่มความเข้มข้นของการดำเนินโครงการเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะนำพาประเทศสู่ "Thailand 4.0 สร้างความเข้มแข็งจากภายใน เชื่อมโยงเศรษฐกิจไทยสู่โลก" ด้วยการเพิ่มแผนงานการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีแผนการดำเนินโครงการ 6 แผนงานเท่านั้น แต่เพื่อให้โครงการสอดรับกับการการเปลี่ยนแปลงของประเทศ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ได้เพิ่มแผนงานการพัฒนา 1 แผน คือ แผนงานที่ 7 แผนงานบริหารจัดการด้านการเงิน เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน ทั้งด้านการจัดทำระบบบัญชี การบริหารเงิน และการจัดการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในปี 2560 ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้พัฒนาโครงการ OPOAI อย่างไม่หยุดยั้ง มีการเพิ่มแผนการดำเนินงานอีก 1 แผนงาน คือ แผนงานที่ 8 การจัดการสถานประกอบการด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งหวังให้สถานประกอบการสามารถพัฒนาให้ระบบงาน IT ของสถานประกอบการ มีความรวดเร็ว ลดความซับซ้อน ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งหวังให้มีการพัฒนาระบบงานโดยใช้ IT ในสถานประกอบการ เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 ระบบ
โครงการ OPOAI เน้นพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่าง ๆ แก่สถานประกอบการซึ่งมุ่งหวังให้สถานประกอบการมีความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่าง มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตให้มากขึ้น และหากสถานประกอบการสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ สินค้ามีความโดดเด่นเฉพาะตัว ผู้ประกอบการก็จะสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนในโลกของธุรกิจ
ในปี 2560 มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ OPOAI แล้ว 171 ราย พัฒนาใน 260 แผนงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการให้คำปรึกษา และหากผู้ประกอบการท่านใดสนใจจะเข้าร่วมโครงการในปี 2561 สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้แล้ว และหากสถานประกอบการเอสเอ็มอีใด โดยเฉพาะที่อยู่ในอุตสาหกรรม แปรรูปการเกษตรที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 200 ล้านบาท สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดใกล้บ้านทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดจะแนะนำรายละเอียดโครงการให้ได้รับทราบเพื่อให้ได้ศึกษาข้อมูลโครงการอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาว่าพร้อมที่จะพัฒนาไปกับโครงการโอปอยหรือไม่ โดยสามารถศึกษารายละเอียดโครงการที่ โทร. 02-202-3167 หรือที่ www.opoai.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit