คุณชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ Lalamove ประเทศไทย ได้กล่าวถึงข้อได้เปรียบของประเทศไทยในแง่ของสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นส่วนเอื้อให้แอพพลิเคชั่นเติบโตเป็นอย่างมาก "สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจคือ การที่เรามีส่วนพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับรถส่งของให้ดีขึ้น อย่างที่ทราบว่าเราเป็นผู้ให้บริการขนส่งโดยใช้โมเดล sharing economy ซึ่งช่วยให้คนขับที่ทำงานประจำอยู่แล้วสามารถหารายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัวในช่วงเวลาที่ว่างจากงานประจำ โดยมาทำงานกับเรา และมีคนขับจำนวนถึง 35% ที่เลือกทำงานบนแพลตฟอร์มของ Lalamove เต็มเวลาแทนที่การทำงานประจำ นั่นเพราะรายได้ที่ดีกว่า การบริหารเวลาได้ด้วยตัวเอง เป็นนายของตัวเอง และที่สำคัญคือการทำงานกับเราช่วยสร้างเพื่อนใหม่สร้างคอมมูนิตี้ที่ดีให้กับคนที่ทำงานที่นี่อีกด้วย"
การขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นส่งผลโดยตรงกับอุตสาหกรรมการขนส่ง ซึ่งมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากในปี 2559 โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งแบบออนดีมานด์ในปี 2560 Lalamove วางแผนที่จะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆและพัฒนาแอพพลิเคชั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายการให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ซึ่งอาจรวมถึงประเทศไทยและพื้นที่อื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเพิ่มการให้บริการเสริมอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ในแวดวงที่กว้างขึ้น แต่แน่นอนว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก
ทางด้านของการระดมทุน Lalamove เพิ่งปิดรอบระดมทุนซีรี่บีไปเมื่อไม่นานมานี้ มีมูลค่ารวมถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดย เซียงเหอแคปปิตัล ผู้ลงทุนจากกรุงปักกิ่ง ทำให้ Lalamove มียอดรวมทั้งหมดตั้งแต่ระดมทุนมาเป็นจำนวน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit