"รัฟฟิน" นายรัฟฟิน ดารีโซะ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ รองประธานค่ายชมรมมุสลิม เล่าว่า ทางชมรมมุสลิม มทร.ธัญบุรี จัดโครงการค่ายอาสามุสลิมอาสาพัฒนาชนบทและสานความรู้สู่น้อง เพื่อร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่จัดสร้างห้องน้ำและที่อาบน้ำละหมาดให้กับทางมัสยิดที่ขาดแคลน และจัดกิจกรรมสร้างความสามัคคีให้กับชุมชนส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเยาวชนในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกฝนเสริมสร้างศักยภาพในการทำงานของนักศึกษา ซึ่งจากการหาข้อมูลพบว่ามัสยิดอักมาลุ้ลอิสลาม (วังมะเดื่อ) ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร ยังไม่มีห้องน้ำและที่อาบน้ำละหมาด จึงได้ลงพื้นในการสร้างค่ายในครั้งนี้ โดยมีสมาชิกในชมรมร่วมกันออกค่ายในครั้งนี้ 50 คน ใช้เวลาในการออกค่าย 2 อาทิตย์
ทางด้าน "ฮุสนี่" นายนวมินทร์ จรกา นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิศวกรรมพลาสติก คณะวิศวกรรมศาสตร์ เล่าว่า ครั้งแรกของการออกค่าย ได้ประสบการณ์ทางด้านช่าง การเข้าสังคม การใช้ชีวิตที่ได้ทำเพื่อผู้อื่น เริ่มต้นตั้งแต่การทำโครงห้องน้ำ ก่อ ทาสี ภูมิใจที่ได้ทำ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการให้ความช่วยเหลือ เอาอาหารมาให้ ภูมิใจที่ได้ออกค่ายในครั้งนี้ เพราะว่า มัสยิด เป็นศูนย์กลางในการทำกิจกรรมต่างๆ
"อับรอร" นางสาวอิษฐา เรืองปราชญ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะเทคโนโลยีการเกษตร เล่าว่า เข้าโครงการตั้งแต่การหาทุน การรับบริจาคทุน ซึ่งตอนไปขอรับบริจาคทุน ได้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยที่แบ่งปันให้กัน ในการออกค่ายตนเองรับผิดชอบในส่วนของการดูแลเรื่องอาหาร ต้องตื่นเช้าไปจ่ายตลาด วางแผนเมนูของแต่ละมื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองไม่เคยทำมาก่อน 06.00 น. ต้องนั่งรถไปตลาดเช้า กลับมาทำอาหาร ต้องมีความรับผิดชอบสูง ค่ายครั้งหน้าตนเองต้องเข้าร่วมอีกแน่นอน
น้องเล็กสุดของค่าย "บัดดารี" นางสาวสุพรรณรัตน์ มูหะหมัด นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรม เล่าว่า ชวนเพื่อนในสาขาวิชามาด้วย 4 คน ทำหน้าที่ในการร่อนทราย และช่วยการทำความสะอาดการดายหญ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สนุกและภูมิใจที่ได้ทำกับเพื่อนๆ และรุ่นพี่ต่างคณะ ประสบการณ์ที่ได้รับ นำมาเล่าให้เพื่อนในสาขาวิชาฟัง ซึ่งเพื่อนบางคนจะมาออกค่ายด้วยในครั้งหน้า
ห้องน้ำจำนวน 5 ห้อง และที่อาบน้ำละหมากด แสดงให้เห็นถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามทุกข์ยาก เช่นเดียวกับหลักคำสอนของศาสนา ที่สอนให้ทุกคนประพฤติแต่ความดีละเว้นความชั่ว และให้ยึดหลักคำสอนของศาสนาที่ถูกต้องเป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิต เพื่อขัดเกลาจิตใจให้มีคุณธรรมและจริยธรรม และให้สังคมไทยมีแต่ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าต่อไป ซึ่งศาสนาอิสลามเองได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในเรื่องหารช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม และมีบัญญัติไว้ในหลักปฏิบัติที่จำเป็น (วาญิบ) ให้มุสลิมทุกคนต้องให้ทาน (ซากาต) หรือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่เดือดร้อน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit