เต็ดตรา แพ้ค ตอกย้ำความสำเร็จส่งมอบหลังคาบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติฯ 100 หลัง ภายใต้โครงการหลังคาเขียว ในงานมหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา

07 Mar 2017
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยนายธีระ พฤกษสุภชาติ (กลาง) ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความสำเร็จและความร่วมมือในโครงการ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" ในงาน "มหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา SAVE THE WORLD EXPO" มหกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่จัดขึ้นโดย รายการทีวี 360 องศา ครอบครัวข่าว 3 ภายใต้แนวคิด "ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านสิ่งแวดล้อม" ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยการจัดนิทรรศการแสดงผลงานการส่งมอบแผ่นหลังคาให้บ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติฯ 100 หลัง และรณรงค์ให้ผู้บริโภคจัดส่งกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วมอบให้กับโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง
เต็ดตรา แพ้ค ตอกย้ำความสำเร็จส่งมอบหลังคาบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติฯ 100 หลัง ภายใต้โครงการหลังคาเขียว ในงานมหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา

หนึ่งในผลงานเด่นของ โครงการ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" ในปีที่ผ่านมา เป็นการร่วมมือกับเหล่ากาชาดระยอง ดำเนินโครงการในการสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีฐานะยากจนและเป็นคนดีของสังคมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสนับสนุนแผ่นหลังคาเขียวจำนวน 4,500 แผ่น ให้แก่โครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติฯ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระยองกว่า 54 ตำบล ใน 8 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 100 หลัง ซึ่งได้ดำเนินการส่งมอบบ้านพร้อมกันทั้งหมดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับองค์กรพันธมิตรโครงการ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการรวบรวมกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วกลับมารีไซเคิล เพื่อใช้ผลิตเป็น "แผ่นหลังคาเขียว" สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติและผู้ด้อยโอกาสตามพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกระบวนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการที่เกิดจากการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการรณรงค์ให้เกิดการเก็บรวบรวมกล่องเครื่องดื่มที่บริโภคแล้วนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี โดยได้ขยายขอบเขตการดำเนินงานโครงการต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 – มิถุนายน 2562