ปภ.แนะวิธีเลือกใช้และดูแลใบปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน

19 May 2017
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เลือกใช้ที่ปัดน้ำฝนที่ทำจากโลหะ มีขนาดเหมาะสมกับมาตรฐานที่รถกำหนด ไม่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป ยางมีความยืดหยุ่น มีขนาดพอดีกับก้านใบปัดน้ำฝน รวมถึงไม่จอดรถตากแดด เพราะทำให้ยางที่ปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานสั้นกว่ากำหนด หมั่นทำความสะอาด ยางใบปัดน้ำฝน พร้อมใช้น้ำยาเช็ดกระจกและเคลือบกระจกอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน จะช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ใบปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานในช่วงฤดูฝน ทำให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจน จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะการเลือกใช้และดูแลใบปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน ดังนี้ การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝน ใช้ใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุและเนื้อยางที่มีคุณภาพดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทน โครงของใบปัดน้ำฝนทำจากโลหะ เพื่อป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะขับรถด้วยเร็วสูง และช่วยเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำจากกระจก มีขนาดเหมาะสมกับมาตรฐานที่รถกำหนด หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้รัศมีในการปัดน้ำฝนน้อยลง ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง หากใบปัดน้ำฝนมีขนาดใหญ่มากไป ใบปัดจะเลยขอบกระจก ทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลง ยางใบปัดน้ำฝนแนบสนิทกับกระบังลมหน้า – หลัง มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านใบปัดน้ำฝน เนื้อยางมีคุณสมบัติพิเศษ ไม่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป และคงทนต่อสภาพอากาศร้อน ลักษณะของใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ ดังนี้ เนื้อยางแข็งกรอบและมีรอยฉีกขาด กวาดน้ำบนกระจกไม่สะอาด และรีดน้ำจากกระจกไม่หมด เมื่อกวาดแล้วมีรอยขุ่นมัวหรือละอองน้ำเป็นม่านบนกระจก มีอายุใช้งานมานานมากกว่า 1 ปี มีเสียงดังและมีอาการกระตุกขณะใช้งาน ซึ่งเกิดจากการเสียดสีกันระหว่างใบปัดน้ำฝนกับกระจก การดูแลใบปัดน้ำฝน จอดรถในที่ร่ม เพื่อป้องกันแสงแดด ทำให้ยางใบปัดน้ำฝนแข็งกรอบและขาดคความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อน หมั่นตรวจสอบสภาพและทำความสะอาดยางใบปัดน้ำฝน โดยยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นและใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามแนวยาวของใบปัดน้ำฝน ไม่ใช้ผงซักฟอกทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน เพราะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วและสีรถได้รับความเสียหาย ใช้น้ำยาเช็ดกระจกและเคลือบกระจกอยู่เสมอ จะทำให้กระจกสะอาดและใบปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กรณีใบปัดน้ำฝนชำรุด อาทิ ฉีกขาด แข็งกรอบ ปัดน้ำไม่สะอาด มีเสียงดังหรือสะดุดขณะใช้งาน มีรอยขีดข่วนบนกระจก ให้เปลี่ยนชุดใบปัดน้ำฝนใหม่ เติมน้ำผสมน้ำยาเช็ดกระจกหรือแชมพูในกระปุกฉีดน้ำ จะช่วยขจัดคราบสกปรกบนกระจกได้สะอาดขึ้น กรณีหัวฉีดน้ำอุดตัน ให้ใช้เข็มหมุดเจาะบริเวณรู พร้อมปรับทิศทางของช่องฉีดน้ำให้อยู่แนวกึ่งกลางของกระจกรถ ทั้งนี้ การใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพ นอกจากจะไม่สามารถกวาดน้ำบนกระจกได้สะอาดแล้ว ยังส่งผลให้กระจกหน้ารถเป็นรอย โดยเฉพาะการขับรถในช่วงที่ฝนตกหนัก ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ