นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่าบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล มีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงขยายตัวอย่างมีศักยภาพ จากแนวโน้มจีดีพีของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ดีตามทิศทางคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนจีดีพีของกลุ่มประเทศยูโรโซนจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้มาตรการ QE และภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและจีดีพีของญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่จีดีพีของจีนถึงแม้มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตชะลอตัว แต่ภาพรวมเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจประเทศที่พัฒนาแล้วในปี 2560 เป็น 3.5% จากเดิม 3.4% ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มประมาณเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐเป็น 2.3% จากเดิม 2.2% กลุ่มยูโรโซนเพิ่มเป็น 1.7% จากเดิม 1.6% ญี่ปุ่นเพิ่มเป็น 1.2% จากเดิม 0.8% จีนเพิ่มเป็น 6.6% จากเดิม 6.5% และอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เพิ่มเป็น 5% จากเดิม 4.9% ซึ่งเป็นปัจจัยที่บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวดีขึ้นในปีนี้(ที่มา : IMF World Economic Outlook Report, April 2017)"เราประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นำโดยประเทศสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ยังมีแนวโน้มขยายตัวหรือเติบโตในระดับที่ดี ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นในประเทศต่างๆ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนและการเติบโตของอัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ดี ขณะที่ราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพงจนเกินไป มองเป็นจังหวะเข้าลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม" นายวิน กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์หรือธีมการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับปีนี้ คือ ธีม 'เกาะกระแสเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก' จากการเปลี่ยนผ่านของนวัตกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบันที่สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยพบว่าบริษัทที่ดีเกิดจากการวางแผนกลยุทธ์ที่ดี เช่น การสร้างความแตกต่าง ศักยภาพแข่งขันสูง ต้นทุนต่ำ ฐานเครือข่ายกว้าง หรือได้รับประโยชน์หรือทนทานต่อกระแส Disruptive Change จะสามารถสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่อง บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จึงเปิดตัว (IPO) กองทุนเปิด 'ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้' (CIMB-PRINCIPAL Global Opportunity Fund: CIMB-PRINCIPAL GOPP) ตั้งแต่วันนี้ - 19 พ.ค.60 เพื่อเป็นทางเลือกกระจายการลงทุนในหุ้นคุณภาพทั่วโลก
โดย CIMB-PRINCIPAL GOPP เป็นกองทุนประเภท Feeder Fund ที่มีนโยบายเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในต่างประเทศคือMorgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Funds เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมี Morgan Stanley Investment Management (ACD) Limited ทีมงานบริหารจัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการลงทุนมานานกว่า 40 ปี มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ณ สิ้นเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาประมาณ 4.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14 ล้านล้านบาท) (ที่มา: Morgan Stanley Investment Management ข้อมูล ณ กันยายน 2559)
สำหรับจุดเด่นของกองทุนดังกล่าว คือ มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวด้วยการคัดเลือกหุ้นรายตัวที่มีองค์ประกอบหลัก ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ได้รับประโยชน์หรือทนทานต่อกระแส Disruptive มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีแนวโน้มเติบโตสูง และมีธรรมาภิบาลที่ดี โดยหุ้นคุณภาพที่เลือกลงทุนจะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพการแข่งขันระดับโลก อาทิ Facebook, Amazon, MasterCard, VISA, Hermes, Alphabet (Google) ยกตัวอย่างเช่น Amazon ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ (Cost Leadership ผู้นำสินค้าต้นทุนถูก) อาทิ หนังสือ เพลง วิดีโอ คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ผ่านบัตรเครดิต โดยมีการจัดส่งสินค้าแก่ลูกค้าโดยตรงด้วยต้นทุนต่ำ "ความแข็งแกร่งด้านตลาดค้าปลีก online และระบบcloud computing (Amazon Web Service: AWS) เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว" หรือ Facebook ดำเนินธุรกิจเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Network Effect รับประโยชน์จากกำลังซื้อ/พฤติกรรมประชากร) โดยมีรายได้หลักมาจากค่าโฆษณา "ได้ประโยชน์จากการเติบโตของตลาดโฆษณาที่เร่งสูงขึ้น โดยเฉพาะการโฆษณาผ่าน video เนื่องจากมี platform ที่แข็งแกร่ง ทั้ง Facebook, IG, WhatsApp" หรือ Hermes บริษัทชั้นนำในธุรกิจออกแบบ ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับและเครื่องแต่งกาย สัญชาติฝรั่งเศส "แบรนด์ที่แข็งแกร่ง สร้างอำนาจในการกำหนดราคาระดับสูง (Pricing Power)" เป็นต้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Funds สามารถเอาชนะดัชนี MSCI All Country World Index ได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยให้อัตราผลตอบแทนต่อปีหลังหักค่าธรรมเนียมแล้ว ในช่วง 1 ปี 3 ปี 5 ปี และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่30 พฤศจิกายน 2553 อยู่ที่ 20.98%ต่อปี 14.00%ต่อปี 15.09%ต่อปี และ 13.82% ต่อปีตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าดัชนีเปรียบเทียบซึ่งอยู่ที่ 15.04%ต่อปี5.08% ต่อปี 8.37% ต่อปี และ 8.37% ต่อปีตามลำดับ (ที่มา: Morgan Stanley Investment Management ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2560)
"เรามองว่าโอกาสลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพเติบโตภายใต้ 'ธีมลงทุน เกาะกระแสเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก' ผ่านกองทุน Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Funds ซึ่งเป็นกองทุนที่มีประสบการณ์การคัดเลือกหุ้นลงทุนและมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญลงทุนในหลักทรัพย์ทั่วโลก จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมจากการลงทุนในบริษัทที่เติบโตท่ามกลางกระแสสังคมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจึงเชื่อว่ากองทุน CIMB-PRINCIPAL GOPP จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มในพอร์ตการลงทุน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาว" นายวิน กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ (CIMB-PRINCIPAL Global Opportunity Fund: CIMB-PRINCIPAL GOPP) เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ - 19 พ.ค.60 สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถขอหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 02686 9595 www.cimb-principal.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit