นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน กล่าวว่า "ภูเก็ตได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลให้เป็นจังหวัดนำร่องของการพัฒนาเมืองสู่สมาร์ทซิตี้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมามากกว่า 15 ล้านคน หรือกว่า 37 เท่าของจำนวนประชากร เติบโตไม่น้อยกว่า 17% ต่อปี และสร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท จังหวัดภูเก็ตจึงยังมีความต้องการทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัยเพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็น ภูเก็ต สมาร์ทซิตี้ โดยได้ตั้งเป้าให้เห็นเป็นรูปธรรมภายในปี 2563 ภายใต้ภาพ "Smile Smart and Sustainable Phuket"
"ด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า จังหวัดภูเก็ตมีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 320 เมกะวัตต์ นับเป็นจังหวัดที่มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นอันดับต้นๆ ของภาคใต้ที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้ารวม 2,450 เมกะวัตต์ แต่มีกำลังผลิตเพียง 1,600 เมกะวัตต์ ดังนั้น การส่งเสริมในการปรับเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูง อย่างเช่น หลอดไฟ LED การใช้พลังงานทดแทนอย่างโซล่าร์เซลล์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยกลุ่มผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ตลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในเรื่องของการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในฐานะที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ของประเทศ ระบบไฟฟ้าสาธารณะ หรือไฟถนน ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งไฟส่องสว่างที่ดีจึงไม่เพียงช่วยในเรื่องการสร้างความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากอาชญากรรมได้อีกด้วย"
"กิจกรรมโรดโชว์ Thailand Lighting Fair 2017 จึงสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ ตามคอนเซ็ปต์ สมาร์ท เอนเนอร์จี หรือ เมืองที่มีการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด อีกทั้ง การเสวนาที่จัดขึ้นยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ภาครัฐและภาคเอกชน ในจังหวัดภูเก็ตได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มเทคโนโลยีอัจฉริยะ" นายธีระ กล่าว
นายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ ผู้อำนวยการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคใต้) กล่าวว่า "ภายใต้วิสัยทัศน์ PEA 4.0 เราได้มีการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ อาทิ การพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) และการจัดทำโครงข่ายมิเตอร์อัจฉริยะ (Smart Meter) โดย Smart Grid จะช่วยเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า เข้ากับระบบสารสนเทศและระบบสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ Smart Meter ช่วยให้การทำงานของระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ซึ่งทั้งสองโครงข่ายนี้จะเป็นรากฐานที่ดีสู่การพัฒนาบ้าน อาคาร และนำไปสู่เมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ในที่สุด"
"ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี กฟภ. จึงมีความยินดีในการสนับสนุนงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนาให้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับมุ่งหวังจะให้งานนี้เป็นเวทีสำคัญของมืออาชีพในอุตสาหกรรมได้พบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเฟ้นหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านการประหยัดพลังงานเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับสากล"
นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด ผู้จัดงานฯ กล่าวว่า "สำหรับการจัดงานในปีนี้จะมีความยิ่งใหญ่และน่าสนใจมากขึ้น โดยเราได้เพิ่มโซนแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางด้านอาคารอัตโนมัติและวิศวกรรมไฟฟ้า ตามแนวทางการจัดงาน light+building ของเมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกับงาน Secutech Thailand 2017 งานแสดงเทคโนโลยีด้านระบบรักษาความปลอดภัย สมาร์ทโฮม การป้องกันอัคคีภัยและวิบัติภัย ส่งผลให้งานในปีนี้เป็นเวทีรวบรวมเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ"
ในส่วนของงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ การจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุดด้านไฟฟ้าแสงสว่างและพลังงานอัจฉริยะยังคงเป็นเทคโนโลยีหลัก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในงานแสดงสินค้าด้านไฟฟ้าและแสงสว่างชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเพิ่ม Building Zone เพื่อแสดงเทคโนโลยีอาคารอัตโนมัติและวิศวกรรมไฟฟ้า และการจัดงานพร้อม Secutech Thailand 2017 ที่เป็นงานแสดงเทคโนโลยีด้านระบบการรักษาความปลอดภัย และสมาร์ทโฮม เป็นการสร้างเสริมให้งานในปีนี้เป็นเวทีเดียวที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา Smart City Safe City แบบครบวงจร โดยคาดว่าจะมีบริษัทผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกกว่า 700 บูธ เข้าร่วมแสดงสินค้า และมีผู้ร่วมชมงานกว่า 15,000 ราย จากกว่า 40 ประเทศ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีก อาทิ "Smart City Safe City Landmark" โซนจำลอง"เมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัย" และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ เวทีประชุมเมืองอัจฉริยะอาเซียน และการประชุมนานาชาติเรื่องการออกแบบแสงและสถาปัตยกรรมอาเซียน ตลอดจนหลักสูตรอบรมสัมมนาด้านมาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อรับประกาศนียบัตรจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก และ ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจากทั้งในและต่างประเทศ
จังหวัดเป้าหมายต่อไปในการจัดโรดโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงาน ไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2017 ได้แก่ ขอนแก่น และชลบุรี พร้อมการโรดโชว์ในต่างประเทศ โดยเน้นในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเชิญชวนนักธุรกิจและนักพัฒนาเมืองในประเทศเหล่านี้เข้าร่วมงาน เพื่อการเลือกสรรเทคโนโลยีที่ทันสมัย แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และเจรจาธุรกิจกับผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เนื่องจากภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเป้าหมายล้วนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและกำลังต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ"
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! ได้ที่เว็บไซต์ www.thailandlightingfair.com หรือติดต่อ บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส จำกัด โทรศัพท์: 02 664 6499 ต่อ 200 และ 212 โทรสาร: 02-664-6477 อีเมล์ [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit