งาน THAIFEX-World of Food Asia 2017 ครั้งนี้จัดใหญ่กว่าเดิม ครอบคลุมพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสงานแสดงสินค้าที่ยอดเยี่ยมกว่า เข้มข้นกว่าเดิม พบกับสินค้าใหม่ๆ พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่สรรค์สร้างมาเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังบูม ในฐานะที่ประเทศไทยตั้งเป้าจะเป็น "ครัวโลก" ซึ่งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารของไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ คือ เริ่มจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพไปจนถึงการแปรรูปและส่งออก
ตลอดจนสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งงานนี้จะช่วยให้ผู้เข้าชมงานได้รับประสบการณ์เฉพาะด้านมากขึ้น โดยผู้ร่วมงานในฐานะผู้จัดแสดงสินค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่คุ้มค่า เพราะถือเป็นเวทีที่จะได้เปิดตัวให้ทั่วโลกได้รู้จักแบรนด์นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะกระตุ้นยอดขายขยายเครือข่ายธุรกิจให้มีโอกาสมากขึ้นเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับอาหารเสริมสร้างแบรนด์ในระดับสากล พบปะและสร้างเครือข่ายกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วโลกรวมถึงเจรจาธุรกิจกับลูกค้ารายใหม่ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับคู่แข่งเพื่อในการวางแผนธุรกิจในอนาคตอีกด้วย
นอกเหนือจากการเข้าร่วมงานTHAIFEXในครั้งนี้ ทางกรมยังมีช่องทางในการขยายตลาดให้ผู้ประกอบการอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันการขายออนไลน์ หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางที่กำลังได้รับความนิยม จากรายงานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) พบว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในประเทศไทยในปี 2559 มีมูลค่ารวมถึงกว่า 2.5 ล้านล้านบาท โดยมีประชากรผู้ประกอบการทั้งในกลุ่ม B2B และ B2C รวมราวๆ 530,000 ราย และมีอัตราการเติบโตทั้งประชากรและมูลค่าตลาดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ มูลค่าของพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย อยู่ในอันดับที่สูงที่สุดใน อาเซียน ทำให้ประเทศไทยติดอันดับตลาดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ทั้งในแง่การซื้อ และการขาย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตระหนักดีในเรื่องนี้ จึงได้จัดทำ Thaitrade.com เพื่อเป็นช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ผลิตและผู้ขายสินค้าไทย ได้นำเสนอสินค้าแก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ เป็นเหมือนหน้าร้าน และโชว์รูม ให้ผู้ที่สนใจซื้อ เข้ามาเลือกสินค้า และติดต่อกับผู้ขายเพื่อตกลงการค้ากันได้โดยตรง ซึ่งได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีมากจากทั้งผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อในต่างประเทศ ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่ามีคุณภาพมาตรฐานการส่งออกจำนวนกว่า 19,500 ร้านค้า ประกอบด้วยสินค้ามากกว่า234,756 รายการ โดยแยกเป็นหมวดหมู่ตามประเภทของสินค้ารวม 51 หมวด ครอบคลุมทุกประเภท
Thaitrade.comมีจุดเด่นและข้อดีหลายประการได้แก่ส่งเสริมการส่งออกให้กับผู้ส่งออกไทยได้มีโอกาสกระจายสินค้าไปสู่ผู้ซื้อทั่วโลกเป็นช่องทางการตลาดที่มีต้นทุนน้อยแต่สามารถกระจายสินค้าและบริการไปสู่ผู้ซื้อทั่วโลกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ขณะเดียวกันยังเป็นตลาดที่เปิดบริการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ผ่านช่องทาง online และ offline โดยผ่านสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 58 แห่งใน 42 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือข่ายกับพันธมิตรต่างๆ เช่น World Class E-Marketplace ไปรษณีย์ไทย ธนาคารกรุงเทพ ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศได้โดยผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการจะต้องผ่านการคัดกรองคุณภาพมาตรฐานโดยคณะกรรมการที่กรมฯ แต่งตั้งขึ้น
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการไทยได้รับนอกเหนือจากการได้เปิดโอกาสทางการค้าบนThaitrade.comแล้วยังได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวสาร บทวิเคราะห์การตลาดจากผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่องผ่านE-Newsletter ทั้งยังได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถใช้สื่อออนไลน์ทำการค้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่กรมฯ จัดขึ้น อาทิ งานแสดงสินค้าต่างๆ การจับคู่เจรจาธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการทีมผู้ช่วย และ Online Chat ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ที่สำคัญคือ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นในการสมัครเป็นสมาชิก สมาชิกผู้ขายยังมีโอกาสในการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ได้รับการคัดกรองมาแล้วจากทูตพาณิชย์ไทยจากทั่วโลกอีกด้วย
สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ DITP Call Center 1169 โทรศัพท์ 02 507 7825 โทรสาร 02 547 5683-4 หรือe-mail :[email protected] www.facebook.com/ThaitradeDotCom
สามารถเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaitrade.com/press-releases
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit