โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ได้นำคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคยากและซับซ้อน ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ขาดแคลน ในลักษณะการจัดโรงพยาบาลสนาม เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรอคิวเข้ารับการผ่าตัดในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและใกล้เคียง ให้ได้รับการบริการที่เร็วขึ้น ด้วยความร่วมมือจากแพทย์ทุกภาคส่วน นับเป็นการรวมตัวของทีมแพทย์จิตอาสาครั้งใหญ่ เข้าร่วมกว่า 200 คน จากคณะแพทยศาสตร์ 21 แห่ง ราชวิทยาลัย/วิทยาลัยแพทย์ 15 แห่ง แพทย์ภาครัฐ แพทย์จากเหล่าทัพทั้ง 4 แห่ง ตลอดจนแพทย์จากภาคเอกชน มาร่วมกันตรวจรักษา โดยโครงการจะมีคลินิกแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ 20 คลินิก อาทิ ศัลยกรรม จักษุคลินิก โรคหัวใจและหลอดเลือด ทันตกรรม การสื่อความหมายและแก้ไขการได้ยิน สูตินรีเวชและหญิงวัยทอง ส่องกล้องระบบทางเดินอาหารและตับแข็ง อายุรกรรมเบาหวานและโรคไต อายุรกรรมประสาท เป็นต้น โครงการนี้มีผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาทั้งสิ้น 14,510 ราย
นาวาอากาศเอก ไกรเลิศ เธียรนุกุล รองเสนาธิการ กรมแพทย์ทหารอากาศ และประธานคณะจักษุแพทย์ กล่าวว่า โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ในปีนี้ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระราชทานโอกาสให้ทางหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจ จัดขึ้นครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน โดยโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นกิจกรรมหลักของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ที่มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ จัดขึ้นในทุกๆปี ซึ่งในปีนี้มีชมรมนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ รุ่นที่ 5 (ปธพ.5) เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ จัดขึ้นเพื่อกระจายโอกาสในการเข้าถึงการรักษา โดยเฉพาะโรคที่ซับซ้อน ต้องใช้เครื่องแพทย์เฉพาะ และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดแคลนเป็นอย่างมากสำหรับประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด ให้ได้รับการบริการที่ดีขึ้น โดยในปีนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมในโครงการดังกล่าว มีคลินิกเข้าร่วมกว่า 20 คลินิก โดยมีกิจกรรมครอบคลุมทุกส่วนของร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ท้องถิ่นขาดแคลน ให้บริการตรวจ รักษา - ผ่าตัด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
"ในส่วนจักษุคลินิก มีการตรวจรักษาโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา รวมทั้งเปิดตาผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจก ซึ่งคณะแพทย์ได้ทำการผ่าตัดต้อกระจกล่วงหน้าให้กับผู้ป่วยไปก่อนแล้ว และคัดกรองผู้ป่วยต้อหิน ฉะนั้นผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจรักษา - ผ่าตัด กับจักษุคลิกนิกใน 2 วันของโครงการ รวมทั้งสิ้น 1,700 ราย ส่วนในกรณีผู้ป่วยต้องรับการรักษาต่อเนื่อง ทางทีมแพทย์จะส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อยังศูนย์หรือโรงพยาบาลจังหวัดต่อไป"
นอกจากนี้ โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ยังเป็นการรวมตัวของภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท คาร์ล ไซส์ส จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกทางด้านเลนส์ ที่ได้ร่วมสนับสนุนเครื่องทางการแพทย์ให้กับโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ
นายธีระพงษ์ บุญรอดชู กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ล ไซส์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 คาร์ล ไซส์ส ได้รับโอกาสให้ร่วมสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์เป็นปีที่ 2 แล้ว โดยเฉพาะให้การสนับสนุนในเรื่องของการตรวจรักษาโรคตา ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราได้ตรวจตา ถ่ายภาพจอประสาทตา และผ่าตัดต้อกระจก (Cataract) สำหรับโครงการในปีนี้เราเน้นในเรื่องของเรตินา หรือตาส่วนหลัง จึงได้นำเครื่องแพทย์ของบริษัทฯ ซึ่งเป็นเครื่องตรวจวัดลานสายตา และเครื่องตรวจของชั้นจอประสาทตา มาสนับสนุน พร้อมกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือมาช่วยตรวจวัดให้กับคนไข้ที่เข้ามารับการตรวจรักษา
"โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง ในแง่ของคนไข้ในต่างจังหวัดจะมีโอกาสน้อยที่จะได้รับการตรวจรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูง และหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ของคาร์ล ไซส์สเองจะช่วยให้การตรวจรักษาของทีมแพทย์ทำได้รวดเร็วขึ้น โดยที่คนไข้ไม่ต้องรอคิวนาน"
คาร์ล ไซส์ส มีความยินดีและความตั้งใจในการมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อได้ตอบแทนบุญคุณของวงการแพทย์ไทยที่ได้ให้ความเมตตากับคาร์ล ไซส์ส มาโดยตลอด จึงพร้อมจะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆของการแพทย์ไทยต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit