มิวเซียมสยาม เปิดตัวคู่แฝดรถรักเรียนโฉมใหม่ "ออล นิว มิวส์สคูล (All New Muse School)" เตรียมบุกโรงเรียนประถมศึกษาทั่วกรุงเทพฯ ชวนเด็กไทยออกกำลังสมองอย่างสร้างสรรค์ โดยภายใต้ตัวรถคันแรกจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มาร่วมทำความรู้จักกับ "4 อาชีพในฝัน" อันได้แก่อาชีพ ทหาร แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และสถาปนิก ผ่านนิทรรศการที่ใช้ภาพกราฟิก สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเกมการเรียนรู้ในการนำเสนอเนื้อหา ขณะที่รถรักเรียนแฝดน้องจะนำเสนอเนื้อหาเรื่อง "ประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่เกี่ยวพันกับสายน้ำ" อาทิ สงกรานต์ บุญบั้งไฟ แข่งเรือ และลอยกระทง อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 กิจกรรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ 'มิวส์คาราวาน' ซึ่งได้ดำเนินงานมาแล้วเป็นปีที่ 2 โดยมุ่งกระตุ้นการเรียนรู้สร้างสรรค์ พร้อมขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนไทย ทั้งนี้มิวเซียมสยามตั้งเป้าให้โครงการ 'มิวส์คาราวาน' ปี 2 ให้ความรู้แก่สถานศึกษารวมกว่า 50 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กไทยกว่า 15,000 คน ในปี 2560
สำหรับสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 หรือ 081-927-5183 หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan
นางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า ในปี 2560 มิวเซียมสยามได้จัดโครงการ 'มิวส์คาราวาน (Muse Caravan)' ต่อเนื่องขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มนักเรียนและทางโรงเรียนกว่า 100 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในปีก่อน โดยโครงการดังกล่าวมุ่งกระตุ้นการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรม 'รถรักเรียน' หรือ 'มิวส์สคูล (Muse School)' ซึ่งเป็นกิจกรรมการนำความรู้จากพิพิธภัณฑ์ ขนใส่รถที่ได้รับการออกแบบให้สามารถกางปีกได้ เสมือนห้องเรียนเคลื่อนที่ที่พร้อมไปเสิร์ฟสาระและความสนุกสนานให้กับเด็กระดับชั้นประถมศึกษาถึงสนามโรงเรียน ภายใต้แนวคิด 'Play & Learn Delivery'
นางซองทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ 'มิวส์คาราวาน' ในปีนี้มีความพิเศษขึ้นกว่าปีก่อน โดยมีการเปิดตัวคู่แฝดรถรักเรียนโฉมใหม่ในชื่อ 'ออล นิว มิวส์สคูล (All New Muse School)' โดยภายใต้ตัวรถคันแรกนั้นจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มาร่วมทำความรู้จักกับ "4 อาชีพในฝัน" อันประกอบไปด้วยอาชีพ ทหาร แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และสถาปนิก ผ่านนิทรรศการที่ใช้ภาพกราฟิก และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในการนำเสนอเนื้อหา รวมไปถึงมีเกมส์การเรียนรู้ อาทิ กลิ่นนี้คืออะไร มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ ตัวต่อมหาสนุก เขาวงกต ตามหาคู่แท้ สามัคคีคือพลัง เป็นต้น อันจะช่วยผลักดันเยาวชนให้เกิดการสร้างสรรค์ความคิด วิเคราะห์ จินตนาการ ตลอดจนช่วยค้นหาตัวตน และสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมๆ กัน โดยกิจกรรมดังกล่าวสามารถรองรับเด็กๆ ได้ประมาณ 150 คน ต่อรอบ โดยใช้เวลารอบละประมาณ 90 นาที ขณะที่รถรักเรียนแฝดน้องจะนำเสนอเนื้อหาเรื่อง "ประเพณีและวัฒนธรรมไทยที่เกี่ยวพันกับสายน้ำ" ทั้งหมด4 ประเพณี ได้แก่ สงกรานต์ บุญบั้งไฟ แข่งเรือ และลอยกระทง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย เช่น DIY กบกระโดด เรือ และเอ๊ะ! นี่มันอะไร เป็นต้น โดยกิจกรรมดังกล่าวสามารถรองรับเด็กๆ ได้ประมาณ 60 คน ต่อรอบ โดยใช้เวลารอบละประมาณ 90 นาที
ทั้งนี้ มิวเซียมสยาม เชื่อว่าการนำองค์ความรู้จากพิพิธภัณฑ์ออกสู่สังคม จะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะกับเด็กรุ่นใหม่หรือเจนเนอเรชั่นแซด ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมาเป็นอนาคตของชาติ อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยนอกจากโครงการมิวส์คาราวานแล้ว มิวเซียมสยามยังมีการดำเนินโครงการอื่นๆ อันส่งเสริมความรู้จากพิพิธภัณฑ์สู่สังคม เช่น โครงการมิวเซียมติดล้อ (Muse Mobile) โครงการมิวเซียมสยามมินิ (Museum Siam Mini) โครงการอบรมวิชาการและทักษะปฏิบัติการด้านพิพิธภัณฑ์ (Museum Academy) โครงการประชุมวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ (Museum Forum) เป็นต้น อย่างไรก็ดีมิวเซียมสยามตั้งเป้าให้โครงการ 'มิวส์คาราวาน' ปี 2 ให้ความรู้แก่สถานศึกษารวมกว่า 50 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กไทยกว่า 15,000 คน ในปี 2560 นางซองทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นางสายพร สิงห์โต ผู้อำนวยการโรงเรียนสุเหร่าลาดพร้าว กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มิวเซียมสยามได้เข้ามาร่วมจัดโครงการ "มิวส์คาราวาน" ให้กับนักเรียนโรงเรียนสุเหร่าลาดพร้าว โดยโครงการดังกล่าวนี้มีส่วนช่วยให้เด็กๆ ได้เปิดหูเปิดตา ตลอดจนกระตุ้นจินตนาการการเรียนรู้ของพวกเขาให้กว้างออกไปกว่ากรอบสี่เหลี่ยมของห้องเรียนที่เด็กๆ ต้องเรียนซ้ำๆ อยู่ทุกวัน ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่เด็กๆ มีโอกาสได้ลงมือทำจริง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทางโรงเรียนให้ความสำคัญมาตลอด อันสอดคล้องตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" ทั้งนี้ทางโรงเรียนเชื่อว่าการเรียนรู้นอกห้องเรียนจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีทั้งความฉลาดทางปัญญาและอารมณ์ควบคู่กันไป
เด็กชายนันทวัฒน์ หมื่นศรี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสุเหร่าลาดพร้าว กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่มิวเซียมสยามมาจัดกิจกรรมที่โรงเรียน เพราะยังไม่เคยเจอกิจกรรมไหนที่สนุกเท่านี้มาก่อน โดยตนได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง อาทิ เกมตัวต่อมหาสนุก เกมเขาวงกต แต่ที่ประทับใจมากที่สุดคือรถรักเรียนมินิที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณีและวัฒนธรรมไทย ที่เกี่ยวกับสายน้ำ ซึ่งบางประเพณีนั้นตนไม่เคยรู้จักมาก่อนอย่างเช่นประเพณีแข่งเรือ นอกจากนี้ก็ยังได้ทำความรู้จักกับอาชีพต่างๆ บนรถรักเรียน และเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ความฝันที่อยากจะเป็นสัตวแพทย์ของตนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ตนอยากให้รถรักเรียนมินิขยายให้กว้างมากกว่านี้ และนำประเพณีอื่นๆ มาเพิ่มขึ้นอีก
เด็กหญิงนภัสณัญ วงศ์แก้ว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสุเหร่าลาดพร้าว กล่าวว่า ตอนแรกที่เห็นรถรักเรียนเข้ามาในโรงเรียนก็ยังรู้สึกเฉยๆ เพราะคิดว่าเป็นแค่รถธรรมดา แต่พอเห็นว่ารถกางปีกได้ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที โดยตนได้จับกลุ่มกับเพื่อนๆ เข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งเกมดมสมุนไพร เกมพับกระดาษ แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือเกมต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นรูปบ้าน เพราะเป็นความใฝ่ฝันของตนที่อยากจะเติบโตขึ้นเป็นสถาปนิกที่สามารถจะออกแบบบ้านที่มีดีไซน์สวยงามให้กับครอบครัวของตัวเอง อย่างไรก็ดี ตนอยากให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นบ่อยๆ เพราะนอกจากความสนุกสนานแล้ว กิจกรรมดังกล่าวยังได้ให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ มากมายที่ไม่ได้มีอยู่ในห้องเรียนอีกด้วย
ล่าสุด มิวเซียมสยาม ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการ "มิวส์คาราวาน" ปี 2 ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงเรียนสุเหร่าลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ สำหรับสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 หรือ 081-927-5183 หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan