เคล็ดลับเลือกครีมกันแดด

23 May 2017
ในทุกๆ วันเราควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวให้เสีย ทั้งฝ้า กระ ผิวแก่ก่อนวัย นอกจากแสงแดดจากดวงอาทิตย์แล้ว แสงจากไฟนีออน แสงจากอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ก็ทำร้ายผิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะแสงแดดอันร้อนแรงในช่วงหน้าร้อน ทำให้ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษ การเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมและวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างเต็มที่ แล้วครีมกันแดดที่มีอยู่ตามท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมาย เราจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผิว จาก Aster Spring ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี) จึงมีเคล็ดลับการเลือกครีมกันแดดดังนี้

ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB UVA(Ultraviolet A) คือ พลังงานที่ปล่อยมาจากดวงอาทิตย์ในรูปแบบของคลื่นรังสีที่มีความยาวคลื่นยาว จึงสามารถเข้าสู่ผิวชั้นลึกอันเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย UVB(Ultraviolet B) คือ พลังงานที่ปล่อยมาจากดวงอาทิตย์ในรูปแบบของคลื่นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นจึงสามารถทำให้ผิวชั้นนอกไหม้และหมองคล้ำได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดและความร้อนจึงจำเป็นต้องเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB อีกทั้งยังควรดูที่ค่า PA ด้วย เพราะค่า PA คือค่าของความสามารถในการกรองรังสี UVA เพื่อปกป้องผิว หากต้องเจอแสงแดดจ้า เราควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ ขึ้นไป แต่ถ้าในวันธรรมดาใช้แค่เพียง PA+ ก็เพียงพอ

ครีมกันแดดเจล ครีม และโลชั่น มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและสภาพผิวของผู้ใช้ โดยครีมกันแดดแบบครีมจะเหมาะกับคนผิวแห้ง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและคงสภาพสารกันแดดได้ดี ครีมกันแดดแบบโลชั่นจะให้สัมผัสเนื้อบางเบาไม่เหนอะหนะเท่าครีม ครีมกันแดดแบบเจลส่วนใหญ่จะเก็บน้ำได้ดี เหมาะกับผู้ชอบให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานไม่เหนียวเหนอะหนะ

ครีมกันแดดผิวหน้ากับผิวกายไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกัน เนื่องจากผิวหน้าจะมีความหลากหลายของปัญหามากกว่าผิวกาย ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าควรเลือกชนิด Physical Sunscreen ซึ่งอ่อนโยนกับผิวหน้ามากกว่าไม่ทำให้ผิวระคายเคือง แต่ครีมกันแดดสำหรับผิวกายควรเลือกชนิด Chemical Sunscreen ซึ่งทนทานยูวีได้ดีกว่า สลายช้า ปกป้องผิวกายได้ยาวนานเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับการใช้งาน หากเล่นกีฬากลางแจ้งควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงและมีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำได้ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป และควรทาก่อนออกแดด 30 นาที ความถี่ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำ เช่น กิจกรรมว่ายน้ำ ควรทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง เพื่อรักษาให้ผลิตภัณฑ์อยู่บนผิวตลอดเวลา สำหรับครีมกันแดดที่ใช้ทุกวันแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SPF 30

ช่วงเวลาที่แสงแดดทำร้ายผิวมากที่สุด คือ ช่วงเวลา 10.00-14.00 น.

การเลือกใช้ค่า SPF ยิ่งสูงจะช่วยเพิ่มระยะเวลาการป้องกันแสงแดดได้ดี ข้อมูลจาก Lab โดยไม่มีปัจจัยรบกวนพบว่า SPF1 สามารถปกป้องผิวได้ประมาณ 20 นาที Waterproof คือ คุณสมบัติในการกันน้ำ เมื่ออยู่ในครีมกันแดดจะทำให้สามารถกันน้ำและปกป้องผิวได้ยาวนานขึ้น เหมาะกับการนำไปใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง ครีมกันแดดสามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 7-8 ปี แต่ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเด็ก เพราะว่า ผิวของเด็กเป็นผิวที่บอบบางอ่อนเยาว์และไวมาก ซึ่งโดนรังสี UV เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำผิวไหม้ได้ วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวของตนเอง

ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็น Physical Sunscreen หรือมีส่วนผสมที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้

ผิวแห้ง ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีความชุ่มชื้นอย่าง Hyaluronic Acid

ผิวมัน ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่สามารถควบคุมความมันส่วนเกินหรือดูดซับความมันอย่าง Potato Starch

ผิวผสม ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะ ซึมง่าย

วิธีเก็บรักษาครีมกันแดด ควรเก็บในอุณหภูมิห้องและห่างจากแสงแดด อายุการใช้งานให้ดูวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์เท่านั้น