"สำหรับผมเรื่องนี้รู้สึกว่ามันไม่ใกล้ตัวเราเลย เพื่อนก็คือเพื่อนมันยากที่จะเอาเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ มันก็ไม่ใช่แล้ว ซึ่ง 3 คนนี้มันไม่ใช่เลย ด้วยความที่เส้นทางมันบีบบังคับให้ 3 คนต้องเป็น ตัว ออฟ (ชนะพล) เค้าก็มีความบีบบังคับในเหตุผลของเค้า ตัวผมเองก็ต้องการขึ้นเป็นใหญ่ ทาง พี่ธันน์ (ธนากร) เค้าก็อยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งแทนพ่อเค้า เส้นทางมันทับกันหมดแล้ว พอขึ้นเป็นหัวหน้าแล้ว เราจะมาก่อนให้อีกแก๊งก็ไม่ได้นะ ลูกน้องจะมองเรายังไงละ
ในเรื่องนี้คนดูก็จะได้เห็นผมในมุมที่นิ่งมากขึ้น มุมตลกยิ้มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่มีแล้ว คือในช่วงแรกก็มีปัญหายากเหมือนกัน เพราะว่าเราเล่นแล้วมันดูก้ำกึ่ง ซึ่งพี่เวอร์ (ผู้กำกับฯ) เค้าไม่อยากจะให้เห็นในมุมนั้นเลย มุมของละครที่ผ่านๆ มันยิ้มหวาน ขี้เล่นปล่อยมุขกุ๊กกิ๊ก ไม่เอาเลยครับ เค้าบอกว่านัยน์ตาเราหน้าผมมันติดยิ้มอยู่แล้ว พอเวลาหลุดแล่นยิ้มปุ๊บมันไปเลยตลกคอเมดี้เลย เค้าก็บอกว่าเรื่องนี้จะพยายามให้ผมไม่ยิ้ม เป็นคนจริงจังกับชีวิต เป็นคนที่พอพูดถึงเรื่องชีวิตมันก็จริงจัง พูดถึงเรื่องเพื่อนก็จริงจัง การอยากเป็นนักเลงของมัน มันจริงจัง เอาจริงหมด หน้าที่การเล่นการหยอกจะเป็นของบวรที่คอยกวนประสาท แอ็คอาร์ตอะไรของเค้าไป ช่วงแรกผมต้องปรับตัวก็มีนิดๆ ที่หลุดยิ้ม ผมก็จะบอกพี่เวอร์ว่า ถ้าเราออกมาแล้วเหมือนจะหลุดยิ้มออกมาให้บอกเลยนะ เอาใหม่ พอเริ่มถ่ายไปสักระยะหนึ่ง เริ่มค่อยเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับตัวละคร เฉียด แล้วเราก็เริ่มสบายขึ้น เหมือนฉากแต่ละฉากมันเป็นการปูคาแร็กเตอร์ให้เรา เราก็เริ่มซึมซับคาแร็กเตอร์ของเฉียดไปด้วยในตัวด้วยครับ"
ติดตามชมคาแร็กเตอร์ของหนุ่มน้ำได้ในละคร "มือเหนือเมฆ" ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี กด 35 นะจ้ะ!!!
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit