เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติและส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินงานโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ "ไทยแลนด์พริวิเลจ คาร์ด" หรือ ไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด ได้จัดงานเปิดแผนบุกตลาดโลกและลงนามในสัญญา ร่วมกับ เฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ฯ โดย นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) และนายโดมินิค โวเล็ค ผู้บริหาร บริษัทเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ฯ ร่วมด้วย นาขวัญ รายนานนท์ อรชุมา ดุงรงค์เดช ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล และ มล.รังษิธร ภาณุพันธ์ ร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้
นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) กล่าวว่า บัตรไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด จะช่วยตอบโจทย์ให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งด้านสิทธิพิเศษและบริการอำนวยความสะดวกสบายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิประโยชน์สำหรับการตรวจคนเข้าเมือง การท่องเที่ยว การประกอบธุรกิจการลงทุน สันทนาการ ด้านการกีฬา อาหาร การแพทย์ และสุขภาพ โดยปัจจุบันบัตรไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด มี 7 ประเภท ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งชาวต่างชาติที่มีฐานะปานกลางจนถึงฐานะร่ำรวย รวมถึงกลุ่มที่เข้ามาเป็นครอบครัว ที่ต้องการอยู่อาศัย และลงทุนในประเทศไทย จากการซื้อ หรือเช่าที่อยู่อาศัยประเภทคอนโด และบ้าน ซึ่งการใช้จ่ายในประเทศไทย นับเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปใช้ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันในประเทศไทย ในขณะที่กลุ่มสมาชิกพำนักหลายปี รวมถึงมีการลงทุนในรูปแบบต่างๆ (Investment Immigration) ทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย
"ไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด เปิดขายให้กับกลุ่มลูกค้าต่างชาติทั่วไป ไม่จำกัดชนชั้นปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 4,348 คน จาก 6 กลุ่มประเทศอันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และบังคลาเทศ และในปีนี้บริษัทฯมีแผนขยายฐานลูกค้าโดยไปโรดโชว์ร่วมกับเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์สฯ ที่สิงคโปร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และฮ่องกง รวมทั้งการไปโรดโชว์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งททท.มีส่วนช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นให้ไทยแลนด์ อีลิทคาร์ดว่า เป็นสินค้าของรัฐบาล ทำให้ต่างชาติมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะบัตร "อีลิทซูพีเรียริตี้เอ็กซ์เทนชั่น" วีซ่า 20 ปี สำหรับผู้ที่ต้องการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว และบัตร "อีลิทแฟมิลี เอ็กซ์เคอร์ชั่น" วีซ่า 5 ปี ในราคาพิเศษสำหรับกลุ่มครอบครัว 2 คนขึ้นไป ซึ่งได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ" นายพฤทธิ์กล่าว และเสริมว่า
บัตรไทยแลนด์ อีลิทคาร์ด ทั้ง 7 ประเภท ได้แก่ 1.) บัตร "อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ" หรือแพคเกจหลักราคา 2 ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี สำหรับผู้อยู่อาศัยในระยะยาว พร้อมสิทธิพิเศษเต็มรูปแบบ 2.) บัตร "อีลิท แฟมิลี่ พรีเมี่ยม" เป็นแพคเกจที่พ่วงกับ "อีลิท อูทิเมท พริวิเลจ" สำหรับบุคคลในครอบครัว ราคา 1 ล้านบาทโดยอายุบัตรขึ้นอยู่กับบัตรหลัก 3.) บัตร "อีลิทอีซี่ แอสเซส" ราคา 5 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี สำหรับเดินทางคนเดียว เข้าออกในประเทศไทยระยะสั้น 4.) บัตร "อีลิทแฟมิลี เอ็กซ์เคอร์ชั่น" ราคา 8 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี เหมาะกับกลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะด้วยราคาพิเศษสำหรับ 2 ท่านขึ้นไป 5.) บัตร "อีลิทแฟมิลี่ อัลเทอร์เนทีฟ" ราคา 8 แสนบาท อายุ 10 ปี เหมาะทั้งมาเดี่ยวและเป็นครอบครัว 6.) บัตร "อีลิทพริวิเลจแอคเซส" ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 10 ปี สำหรับการอาศัยในประเทศไทยในระยะยาว ทั้งมาเดี่ยวหรือมาเป็นครอบครัวและเดินทางเข้าออกบ่อยครั้ง 7.) บัตร "อีลิทซูพีเรียริตี้เอ็กซ์เทนชั่น" ราคา 1 ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี สำหรับผู้ที่ต้องการพำนักในประเทศไทยในระยะยาว
นอกจากนี้นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มาร่วมงานได้แสดงความเห็น โดย หม่อมโก้-ม.ล.รังษิธร ภาณุพันธุ์ บอกว่า ผมว่าไอเดียของบัตรนี้ดีมากครับ ผมทำธุรกิจร้านเสื้อผ้ามา 5 ปี ขยายสาขาได้ 9 แห่งในกรุงเทพมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาเยอะมาก ส่วนใหญ่จะมาจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชีย ล้วนแล้วแต่เป็นนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย ผมว่าบัตรอีลิทคาร์ดค่อนข้างจะตอบโจทย์คู่ค้าเหล่านี้ เพราะกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรม ยานยนต์ เครื่องจักร สิ่งทอ จะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามา เมื่อนักลงทุนรายย่อยต่างๆ เห็นว่าพวกเขาเหล่านั้นได้รับความสะดวก และเห็นว่าการเข้ามาทำธุรกิจในบ้านเราไม่ใช่เรื่องยาก ก็จะมีแรงกระตุ้นให้เขามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในบ้านเราให้ดีขึ้นได้ การเข้ามาติดต่อ หรือทำธุรกิจต่างๆ ก็จะรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย
หญิงแอร์-ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล อุบลเดชประชารักษ์ บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนมีครอบครัวก็จะนึกถึงนักลงทุนต่างชาติที่ต้องเข้ามาทำงานคนเดียวเป็นเวลานานก็คงจะเหงา เมื่อมีบัตรอีลิทคาร์ดเข้ามาเป็นช่วยซัพพอร์ตในด้านครอบครัวก็ช่วยได้มาก ทำให้ครอบครัวได้เข้ามาอยู่ด้วยกัน กำลังใจในการทำงานก็จะดี เงินหมุนเวียนที่จะเข้าประเทศจากการใช้จ่ายของครอบครัวนักลงทุนต่างๆ ก็จะมีมากขึ้นทั้งจากการ เช่า หรือ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย และสำหรับธุรกิจร้านเสื้อผ้าของแอร์เอง ก็มีชาวต่างชาติเข้ามาซื้อ เข้ามาชมอยู่เรื่อยๆ ทำให้เราได้มีโอกาสพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา การบอกปากต่อปากของลูกค้าต่างชาติ ทั้งจากการโพสต์ หรือแชร์รูปต่างๆ ก็ช่วยต่อยอดธุรกิจของเราได้มาก ลูกค้าต่างชาติก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
ขณะที่นักธุรกิจสาวสวย อย่างคุณเฟย์-อรชุมา ดุรงค์เดช บอกว่า ทุกวันนี้เฟย์ต้องทำงานติดต่อกับชาวต่างชาติเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจน้ำแร่ ระบบน้ำ และสถาบันการเงิน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมาจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน อังกฤษ และอเมริกา หลายคนก็เข้าๆ ออกๆ ประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง การที่มีบัตรอีลิทเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ก็จะช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินหมุนเวียนเข้ามาในประเทศมากขึ้น เมื่อมีเงินเข้ามา การพัฒนาเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ก็จะดีขึ้น นับว่าเป็นไอเดียที่ดี สำหรับการติดต่อธุรกิจ ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักลงทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit