Under Armour (อันเดอร์ อาร์เมอร์) ผู้นำด้านการผลิตเสื้อผ้ากีฬาด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เปิดตัวไฮไลท์แห่งปีเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาสไตล์เพอฟอร์มานส์ สปอร์ตแวร์ ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้สวมใส่ผ่านความหลงใหล การออกแบบและการคิดค้นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง
ปัจจุบัน Under Armour ประเทศไทยมีสาขารวม 9 แห่ง นำเสนอผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและเอสเซสเซอร์รี่กีฬาสำหรับการเทรนนิ่งซึ่งเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาศักยภาพในกีฬาทุกประเภท โดยยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถแสดงศักยภาพได้ดีขึ้น
ในปี 2560 Under Armour ยังคงเดินหน้าสร้างแพลตฟอร์มกีฬาต่างๆที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ด้วยการนำ Under Armour Test of Will การแข่งขันแบบฟังก์ชันนอล เทรนนิ่ง รายการใหญ่ประจำปี กลับมาอีกครั้งเป็นปีที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 19 มีนาคม 2560 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การค้าเมกา บางนา เพื่อเป็นเวทีทดสอบความแข็งแกร่งและหัวใจนักสู้ของกลุ่มนักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบความท้าทาย
Under Armour Test of Will เป็นเวทีระดับภูมิภาคจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย โดยปีนี้ได้จัดเพิ่มอีกใน 2 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซียและบรูไน รวม 6 ประเทศ โดยถูกออกแบบมาให้มีความเข้มข้นมากกว่าปี 2559 ที่ผ่านมา ผู้แข่งขันลงแข่งในเวลา 4 นาที ใน 4 ท่า ประกอบด้วย เบอร์พีส์ (Burpees), วัน อาร์ม ทรัสเตอร์ (One Arm Thruster), ทีอาร์เอ็กซ์ โรว์ (TRX Rows) และแซนด์แบค โทรว์ (Sandbag Throw) โดยนับคะแนนจากจำนวนครั้งที่ทำได้ในแต่ละท่าภายในเวลา 1 นาที ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดประเภทชายและหญิงจากแต่ละประเทศจะได้รับแพ็คเกจเดินทางไปร่วมแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคในวันที่ 6 พฤษภาคม 2560 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ผู้ชนะประเทศไทยจะได้รับรางวัลเงินสดและรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่า 100,000 บาท และโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงรางวัลเงินสดมูลค่า 2,500 สิงคโปร์ดอลลาร์ ผู้สนใจที่มีอายุ 21 ปี ขึ้นไปและพำนักอยู่ในประเทศไทยสามารถลงทะเบียนร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้แล้วที่ testfofwill.com
ไมเคิล บิงเกอร์ ประธานบริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทริปเปิ้ล (Triple Pte. Ltd) ผู้จัดจำหน่าย Under Armour แต่เพียงผู้เดียวในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ กล่าวว่า "Under Armour Test of Will เปิดกว้างสำหรับทุกคนเทรนและต้องการทดสอบสมรรถภาพของตัวเอง ปีที่แล้วเราได้แชมป์จากนักกีฬาที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เวทีนี้จึงสะท้อนถึงความแน่วแน่และหัวใจนักสู้ หรือ อันเดอร์ด็อก สปิริต แนวคิดที่ Under Armour ยึดถือตลอดมา"
นอกจากการสร้างแพลตฟอร์มด้านกีฬาแล้ว Under Armour ยังทำงานร่วมกับนักกีฬาและอินฟลูเอ็นเซอร์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาออกกำลังกายและดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยในปีนี้ Under Armour เฟ้นหา Brand Athletes (แบรนด์ แอทลีท) คนที่มีวินัยและมีแนวคิดของนักสู้หรืออันเดอร์ด็อก สปิริต ที่สอดคล้องกับแบรนด์รวม 19 คน จากกีฬาแขนงต่างๆ ประกอบด้วย CrossFit เพาะกาย ไตรกีฬา เทนนิส มวย กีฬาต่อสู้ บาสเก็ตบอล ฟิตเนส พิลาทิส โยคะ และกีฬาเต้น โดยในกลุ่มนี้ มีนักกีฬาดาวรุ่งไทยมากมาย อาทิ นักกีฬาเทนนิส (กมลวรรณ บัวแย้ม และบุณยวีร์ ธรรมไชยวัฒน์) นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น (วุฒิชัย มาสุข) นักกีฬาบาสเก็ตบอล (วุฒิพงษ์ ดาโสม, กานต์ณัฐ เสมอใจ, ชนะชนม์ กล้าหาญ, ณัฐกานต์ เมืองบุญ และไพรัช เสกธีระ) นักกีฬาเพาะกายอาชีพ (พรไพศาล เรืองแสงเพ็ญ) และนักกีฬาฟิตเนส (จิรวัฒน์ ตระกูลมา)
นอกจากนี้ แบรนด์ดังสัญญาชาติอเมริกายังเปิดตัวเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตของแบรนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ Under Armour เปิดตัวเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาตัวคอลเลคชั่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Threadborne™ (เทรดบอร์น) อาทิ Threadborne™ Siro (เทรดบอร์น ไซโร) คอลเลคชั่น และซีมเลส (Seamless) คอลเลคชั่น ที่ผลิตขึ้นเทคนิคทางด้านวิศวกรรมล้ำสมัยที่ฉีกกฎของการออกแบบเดิมๆ ให้ความสบายและช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้สวมใส่ไปสู่อีกมิติ น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ร่างกายแห้งเร็วขึ้นและรู้สึกเย็นเบาสบาย มีความยืดหยุ่น คล่องตัว กระชับพอเหมาะแต่ไม่แนบติดกับร่างกาย โดยเทคโนโลยี Threadborne™ (เทรดบอร์น) ถูกผลิตเป็นส่วนประกอบของรองเท้าบาสเก็ตบอลของซุปเปอร์สตาร์บาสเก็ตบอล UA Curry 3 รองเท้า UA SpeedForm® Gemini 3 (ยูเอ สปีดฟอร์ม เจมิไน 3) และผลิตภัณฑ์อื่นๆตั้งแต่สปริง/ซัมเมอร์ คอลเลคชั่น 2017 เป็นต้นไป
ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า "Under Armour นำเส้นด้ายพิเศษที่มีความคงทนจากเชือกของร่มชูชีพนำมาผลิตขึ้นเป็น "เส้นใยชนิดพิเศษ" ที่ทนทานต่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ทำให้เส้นใยดังกล่าวกลายเป็นเนื้อผ้าเจนเนอร์เรชั่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถแสดงศักยภาพได้ดีขึ้นโดยยังคงสวมใส่สบายและขณะเดียวกันก็มีความทนทาน"
Under Armour มีสาขาทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่ สยาม เซ็นเตอร์, เมกา บางนา, สเปล แอท ฟิวเจอร์ พาร์ค, สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, เอาท์เล็ต เมืองทอง ธานี, เซ็นทรัลเฟสติวอล พัทยา และจังซีลอน ภูเก็ต สามารถติดตามกิจกรรม Under Armour ประเทศไทยได้ทาง เฟสบุ๊ค Under Armour Thailand หรืออินสตาแกรม @underarmourth
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit