นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM เปิดเผยว่า ได้นำหุ้น บมจ.มัดแมน เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก โดยใช้ชื่อย่อ 'MM' ในการซื้อขายหลังจากที่ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210,980,750 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบัน ในราคาหุ้นละ 5.25 บาท
หลังจากที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัทฯ จะเร่งขยายธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งที่ดำเนินการภายใต้สิทธิตามสัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์และที่ดำเนินการภายใต้แบรนด์ตัวเอง โดยเน้นไปที่แบรนด์ดังกิ้น โดนัท, โอ บอง แปง, บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์, ครัวเอ็ม และเกรฮาวด์ คาเฟ่ เพื่อก้าวสู่ผู้นำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ส่วนธุรกิจไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ 'เกรฮาวด์' ขณะนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม
ทั้งนี้ แผนขยายธุรกิจ 'เกรฮาวด์ คาเฟ่' ซึ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ดำเนินการภายใต้แบรนด์ของตนเอง ตั้งเป้าขยายสาขาในไทยอีก 6-9 สาขา รวมเป็น 19-22 สาขาภายในปี 2563 คาดว่าใช้เงินลงทุนแห่งละ 15-20 ล้านบาท อีกทั้งจะขยายสาขาผ่านการให้สิทธิแฟรนไชส์ในต่างประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง มาเลเซียและสิงคโปร์ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางเป้าหมายขยายการให้สิทธิแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นปีละ 1-2 ประเทศ
พร้อมกันนี้ จะลงทุนขยายร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ ในทวีปอื่น ๆ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป โดยล่าสุด ได้จดทะเบียนจัดตั้ง GHC Cafe (UK) Co.,Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด เพื่อพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศอังกฤษ โดยได้ลงทุนร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่แห่งแรกที่อังกฤษเป็น Flagship Store ที่เป็นต้นแบบในการขยายสาขาผ่านการให้สิทธิแฟรนไชส์ในยุโรปต่อไป คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากนี้ มีแผนขยายธุรกิจครัวเอ็มซึ่งเป็นธุรกิจรับบริหารศูนย์อาหารในโรงพยาบาล (Cafeteria) และบริการอาหารสำหรับผู้ป่วยใน (IPD Food Services) ไปยังสถานที่อื่น ๆ เช่น โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติ ฯลฯ
ส่วนธุรกิจที่ดำเนินงานภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์ ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ มีแผนขยายสาขาเพิ่มแบรนด์ละ 12-15 สาขาต่อปี 5-6 สาขาต่อปี และ 3-5 สาขาต่อปีตามลำดับ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2563 คาดว่าจะมีร้านดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ เพิ่มขึ้นเป็น 355 สาขา 96 สาขา และ 54 สาขาตามลำดับ
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า บมจ.มัดแมน มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าในปี 2559 มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ แต่เป็นการขาดทุนที่เกิดจากการตัดค่าจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการและการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น ถ้าหากไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทก็ยังคงมีกำไรจากการดำเนินงาน จึงมั่นใจว่า MM จะมีศักยภาพการเติบโตที่ดีในอนาคต
ทั้งนี้ ธุรกิจของ บมจ.มัดแมน มีจุดแข็งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมีความถี่ในการเปิดตัวเมนูใหม่ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนพัฒนาเมนูเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญเพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกัน ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพสินค้า ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บและกระจายสินค้า รวมถึงมาตรฐานการให้บริการหน้าร้าน การบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงมุ่งเน้นการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิทัลเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น
"เรามองว่า บมจ.มัดแมน มีศักยภาพในการแข่งขันที่ดีและโอกาสที่จะเทิร์นอราวนด์ได้ โดยนอกจากจุดแข็งทางธุรกิจแล้ว ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังได้รับปัจจัยหนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารที่คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9.95 แสนล้านบาทในปี 2562 จากปี 2559 ที่ 7.88 แสนล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี" นายมนตรี กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit