นายกิตติ โกสินสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟเบอร์วัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไฟเบอร์วัน เล็งเห็นถึงแนวโน้มของโลกที่กำลังเปลี่ยนไป และเรากำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัล โลกดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา การสร้างโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก จะเป็นหัวใจสำคัญและเป็นโครงข่ายพื้นฐานในการปูทางสู่การใช้งานดิจิทัลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการ โดยเฉพาะในเรื่องเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนไป การรอแค่เพียง 30 วินาที ก็อาจทำให้คนเปลี่ยนใจไปใช้บริการของอีกแบรนด์หนึ่งได้ ดังนั้นโครงข่ายไฟเบอร์ ออฟติก ที่ให้ความเร็วในระดับกิกะบิตต่อวินาที จึงเป็นโครงข่ายที่เป็นหัวใจสำคัญของโลกดิจิทัล"
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ความร่วมมือกับไฟเบอร์วัน ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในปณิธานของสัมมากรที่ว่า "เราไม่เพียงสร้างบ้าน แต่เราสร้างสังคม" เราเล็งเห็นว่าแนวโน้มของ Smart Home, Smart Living, Smart Society เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนรุ่นใหม่ และตอบรับกับการใช้ชีวิตยุคดิจิทัลในวันนี้ และในอนาคตอันใกล้ ยกตัวอย่างเช่น การติดกล้องวงจรปิดที่บ้านและดูผ่านมือถือ ช่วยให้คนทำงาน
ยุคใหม่ ดูลูกหรือพ่อ-แม่ ผู้สูงวัย ได้อย่างรู้สึกวางใจมากขึ้น การสั่งเปิดแอร์ก่อนถึงบ้าน 20 นาที ผ่านมือถือ พอถึงบ้านก็เย็นสบายพอดี การสั่งเปิดไฟหน้าบ้านหรือในบ้านตอนเราถึงบ้านเพื่อสะดวกในการเดินเข้าบ้าน หรือหลอดไฟรุ่นใหม่ที่มีเซ็นเซอร์เปิดอัตโนมัติยามพระอาทิตย์ตกดิน การเปิดทีวีและสั่งอัดรายการโปรดตอนเราไม่อยู่บ้าน รวมถึงบริการไฟเบอร์ทีวี ที่ให้ภาพคมชัดสมจริงได้อรรถรสความบันเทิงเต็มรูปแบบ หรือในอนาคตอันใกล้ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เราสามารถสั่งเปิด-ปิด ผ่านรีโมท หรือเชื่อมโยงเข้าอินเทอร์เน็ต"
นายกิตติพล กล่าวต่อว่า "เทคโนโลยีได้ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ การใช้งาน นี่คือ รูปแบบชีวิตยุคดิจิทัล และสัมมากรพร้อมในการให้บริการลูกบ้าน"
ปัจจุบัน ไฟเบอร์วันได้ติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกให้กับโครงการหมู่บ้านและคอนโดของสัมมากรแล้ว 2 แห่ง คือ โครงการสัมมากรบางกะปิ และเอส9 คอนโดมิเนียม และกำลังดำเนินการอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการสัมมากรอเวนิว รามอินทรา-วงแหวน และชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ รวมถึงมีแผนติดตั้งในโครงการสัมมากรสุวรรณภูมิ และอเวนิว ชัยพฤกษ์-วงแหวน นอกจากนั้น ยังได้รับความไว้วางใจในการติดตั้งระบบ E-Security ผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อให้ลูกบ้านในโครงการสัมมากร นอกจากสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังได้รับความปลอดภัยจากระบบ E-Security system จากโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกของไฟเบอร์วัน
ที่สำคัญ คือ โครงการหมู่บ้านไม่จำเป็นต้องลงทุนติดตั้งโครงข่ายเอง เพราะไฟเบอร์วัน ใช้โมเดลในการดำเนินธุรกิจแบบSharing and Caring โดยไฟเบอร์วันเป็นผู้ติดตั้งโครงข่ายให้กับหมู่บ้านนิติบุคคล และดูแลรักษาโครงข่ายให้เป็นเวลา 15ปี หลังจากนั้นจะยกโครงข่ายให้กับทางโครงการ
นอกเหนือจากนี้แล้ว ทางสัมมากรได้ร่วมมือกับบริษัท สมาร์ทไลฟ์ ซิสเต็ม จำกัดพาร์ตเนอร์ของทางชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นโฮมคอนโทรล โดยโซลูชั่นที่นำมาสาธิตในครั้งนี้ คือ ULTI Zigbee EZinstall3 โซลูชั่นสำหรับสมาร์ทโฮม ในการควบคุมระบบแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และโคมไฟห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร โดยสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน และมีโปรโมชั่นให้กับลูกบ้านในราคาพิเศษ
HTML::image(