โครงการปิ๊งส์ โดยแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.), สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย, มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน, องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) และบริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวและพิธีประกาศผลมอบรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการประกวดภาพยนตร์สั้น "อย่าปล่อยให้เหล้ามาลวงเรา" หลังได้ 8 ผลงานจากเยาวชน 8 ทีมสุดท้ายจากผู้เข้าประกวดจาก 100 ทีม ภายใต้โจทย์คำเตือนรณรงค์ผลกระทบเครื่องดื่มแอลกอออล์ คือ 1.สุรา เป็นเหตุก่อมะเร็งได้ 2.สุรา เป็นเหตุให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ 3.สุรา เป็นเหตุให้พิการและตายได้ และ 4.สุรา ทำร้ายตนเอง ครอบครัวและสังคมได้
โดยรองศาสตราจารย์นายแพทย์ปัญญา ไข่มุก คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการรณรงค์การลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านมาแม้จะมีสถิติลดลง แต่เมื่อดูถึงผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2558 พบว่าประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปดื่มสุราประมาณ 17 ล้านคนหรือร้อยละ 32 เป็นผู้ชายดื่มสุรามากกว่าผู้หญิงประมาณ 4 เท่า ที่น่าห่วงคือกลุ่มที่เริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุ 15–19 ปีถึงร้อยละ 50 ของนักดื่มหน้าใหม่ทั้งหมด โดยเสียค่าใช้จ่ายในการดื่มเฉลี่ยเกือบ 600 บาทต่อเดือน สาเหตุของการดื่มคือการเข้าสังคมหรือการสังสรรค์ร้อยละ 42 เพื่อนชวนดื่มร้อยละ 27 อยากทดลองดื่มร้อยละ 24 เพื่อให้ปัญหาเหล่านี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง สสส. จึงต้องมีการรณรงค์ให้ความรู้ และกระตุกเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งมุ่งเป้าหมายสำคัญไปที่เยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเป้าหมายหลักที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มุ่งทำตลาด
"สื่อภาพยนตร์สั้นจึงเป็นสื่อที่ สสส. คิดว่าน่าจะเข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้เร็วและง่ายที่สุด ประกอบกับข้อความคำเตือนที่ปรากฏในสื่อโฆษณาแอลกอฮอล์หรือบรรจุภัณฑ์ยังไม่สามารถกระตุกเตือนสังคมได้ จึงได้ชวนเยาวชนและผู้กำกับมืออาชีพทำภาพยนตร์สั้นรณรงค์ "อย่าปล่อยให้เหล้ามาลวงเรา" ครั้งนี้ขึ้นซึ่งทั้ง 8 ผลงานเยาวชนกับ 6 ผลงานผู้กำกับมืออาขีพ ถือเป็นสุดยอดผลงานที่จะนำมาใช้รณรงค์ต่อในทุกเทศกาล โดยเริ่มจากสงกรานต์นี้เป็นเทศกาลแรก" คณะกรรมการกองทุน สสส. กล่าว
ด้านเภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ ปี 2559 ของสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ พบว่า มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บช่วง 7 วันอันตรายที่สูงขึ้น กล่าวคือ เกิดอุบัติเหตุ 3,447 ครั้ง, บาดเจ็บ 3,656 ราย และเสียชีวิต 442 ราย ซึ่งเป็นการสูญเสียที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดความสูญเสียดังกล่าว ทั้งการดื่มแล้วขับ ความรุนแรง เพื่อช่วยลดอัตราการสูญเสียทางสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจะส่งภาพยนตร์สั้นทั้งหมดไปรณรงค์ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมีเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เกิดจากความร่วมมือของภาคีองค์กรผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้ง องค์กรเครือข่ายงดเหล้า, องค์กรศาสนา, นักวิชาการ, องค์กรด้านเด็กและเยาวชน, องค์กรด้านครอบครัว, องค์กรสตรี ฯลฯ รวม 264 องค์กร เชื่อว่าสื่อที่สร้างสรรค์ด้วยเด็กและเยาวชน และอีก 6 ผู้กำกับมืออาชีพครั้งนี้จะเข้าถึงและช่วยปกป้องเยาวชนและสังคมไทยจากภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายกว่าสื่ออื่นๆ ก่อนจะเดินหน้านำไปใช้ในงานรณรงค์ต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป
สำหรับนายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. กล่าวว่า โครงการประกวดภาพยนตร์สั้นนี้จากการตัดสินของคณะกรรมการ รางวัลชนะเลิศจากการประกวดได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ เรื่องครูคนใหม่ ทีมฮักไอเดีย จากโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า จังหวัดอุดรธานี, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เรื่อง "คำสารภาพ (Father)" ของทีม Weirdo (เวียร์โด) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เรื่อง"ดองฮัก" ของทีมอีเกียหน้าเขา จากโรงเรียนภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น และรางวัลชมเชย ได้แก่ เรื่อง"John Doe" ของทีมThe Thlrd Life จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
"ผลงานทั้งหมดในโครงการจะนำไปฉายโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศคู่กับผลงานของผู้กำกับมืออาขีพ เช่น "อุ๋ย" นนทรีย์ นิมิบุตร, "กังฟู" นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ, "อั้ม" ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์, "ตั้ม" พัฒนะ จิรวงศ์, "เหมียว" ชาญ รุ่งเรืองเดชวัฒนา เพื่อรณรงค์ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ หวังให้เป็นเทศกาลของความสนุกปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์, ไร้ความรุนแรง, อุบัติเหตุ, การบาดเจ็บ และล้มตาย โดยวันที่ 7-8 เมษายน 2560 สามารถชมได้ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเซ็นทรัลเวิลด์, วันที่ 21-23 เมษายน 2560 ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเซ็นทรัลขอนแก่น, วันที่ 28–30 เมษายน 2560 ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเซ็นทรัลสุราษฎร์ธานี และวันที่ 5-7พฤษภาคม 2560 ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเมญ่าเชียงใหม่ และหลังจากนั้นจะออกอากาศเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, ทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ ต่อไป สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งทุกรอบ ได้ที่ Fanpage (แฟนเพจ) แผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. หรือโทรศัพท์ 096-859-5714 ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย" นายดนัย หวังบุญชัย กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit