ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้ได้มาตรวจสอบระบบการให้บริการต่างๆ ของหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 เม.ย.60 ซึ่งผลการทดลองใช้บริการในวันนี้พบว่ามีความน่าพอใจ รวมทั้งวันนี้ยังได้มารับมอบหนังสือทรงคุณค่าจากภาคส่วนต่างๆ ที่นำมามอบเพื่อนำเข้าหอสมุดฯ ซึ่งกทม.ยังคงเปิดรับอย่างต่อเนื่องไม่จำกัด เนื่องจากหอสมุดแห่งนี้มีขนาดใหญ่ มีหนังสือมากมายหลากประเภท หลายภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส อาหรับ เป็นต้น ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชน นักเรียน นักศึกษา มาอ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติม มาเพิ่มอาหารสมอง และสมัครเป็นสมาชิก โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวนักศึกษา สมัครเป็นสมาชิกพร้อมค่าสมัคร สำหรับผู้ที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ปีละ 5 บาท อายุเกิน 15 ปี ปีละ 10 บาท โดยในเบื้องต้น หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร กำหนดเปิดให้บริการวันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 08.00 – 21.00 น. วันอาทิตย์ เวลา 09.00 –20.00 น. ปิดทำการวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สำหรับโครงการจัดตั้งหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งใน 9 พันธกิจที่สำคัญของกทม. ตามแผนงานส่งเสริมการอ่านที่ได้เสนอต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะเมืองหนังสือโลกประจำปี 2556 (World Book Capital 2013) เพื่อขยายพื้นที่ส่งเสริมการอ่าน สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านให้เข้มแข็งในสังคมไทย โดย กทม. ได้เช่าอาคารของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกคอกวัว ความสูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 4,880.38 ตารางเมตร ออกแบบปรับปรุงอาคารหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานครภายใต้แนวคิดการอนุรักษ์และเคารพในคุณค่าของสถาปัตยกรรมเดิม คงกลิ่นอายอารยธรรมตะวันตกผสมผสานการตกแต่งแบบศิลปะไทย เพื่อคงรูปแบบเดิมไว้ให้มากที่สุด ลักษณะอาคารได้รับการออกแบบให้มีความโอ่โถง โปร่งสบาย ภายใต้แนวคิด "แสงแห่งปัญญา" (Wisdom of Life) ตามรอยทางของพระราชา โดยได้เน้นการออกแบบในส่วนพื้นที่ให้บริการการอ่านและการทำงาน ซึ่งจะมีการคุมแสงให้อยู่ในระดับสบายตาในโทนสีที่ร่วมสมัย มีการตกแต่งใช้ลวดลาย สี และวัสดุที่บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นไทย ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกันกับศิลปะสไตล์อาร์ตเดคอร์ และนีโอ – คลาสสิค (สถาปัตยกรรมเดิม)
ภายในอาคารได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 4 ชั้น (รวมชั้นลอย) ดังนี้
ชั้นที่ 1 : "ตามรอยทางของพระราชา ตามรอยแสงแห่งปัญญา" (Follow the Light of Wisdom of the King Bhumibol Adulyadej) อัญเชิญพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสที่เกี่ยวข้องกับการอ่านและการเรียนรู้ มาจัดแสดงเพื่อกระตุ้นเตือนให้คนไทยรู้จักการเรียนรู้อย่างชาญฉลาดผ่านกระบวนการต่างๆ โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนองค์ความรู้ครอบคลุมทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศาสตร์ และสังคม ห้องนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ส่วนบนิการข้อมูลภายในห้องสมุดและข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว ห้องฉายภาพยนตร์ และห้องสมุดสำหรับผู้พิการ ประกอบด้วย หนังสือเสียง หนังสืออักษรเบรลล์ และสื่อโสตทัศน์ต่างๆ
ชั้น M : เมื่อเด็กน้อยจะขอตามรอย "แสงแห่งปัญญา" (Play, Learn and Grow together with the Light of Wisdom) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ตามรอยและเรียนรู้ "ความพากเพียร" และ "การใช้ปัญญาอย่างถูกต้อง" หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานครได้รวบรวมหนังสือ วรรณกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน รวมถึงกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับครอบครัวไว้ในบริเวณชั้นนี้
ชั้นที่ 2 : "โลกแซ่ซ้องพระบารมี เจริญไมตรีแห่งมหานคร" (Welcome to the Land of the Great King) รวบรวมเรื่องราวของเมืองหลวงนานาประเทศและหนังสือจากสถานทูตในประเทศไทย หนังสือจากประเทศเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนพร้อมทั้งหนังสือสื่อการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ
รวมถึงวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งมีห้องค้นคว้าและห้องประชุมอเนกประสงค์ให้ใช้บริการ รวมทั้งนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับการอ่าน
ชั้นที่ 3 : "แหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา"เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้แนวพระราชดำริ หลักการทรงงาน ตลอดจนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยรวบรวมองค์ความรู้ในด้านต่างๆ และโครงการพระราชดำริของพระองค์ท่าน ตลอดจนรวบรวมเอกสาร สื่อสิ่งพิมพ์ โสตทัศนวัสดุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานครในด้านต่างๆ อาทิ ด้านประวัติศาสตร์ ด้านสถาปัตยกรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมืองการปกครอง ด้านศาสนา ด้านการคมนาคม ผังเมือง ข้อมูลทั้ง 50 เขต รวมไปถึงโครงการต่างๆ และหนังสือที่หน่วยงานกรุงเทพมหานครเป็นผู้ผลิตขึ้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit