นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ว่า "เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวต่อเนื่อง นำโดย ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กทม.และปริมณฑล โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทน สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในหลายภูมิภาค รวมถึงการขยายตัวต่อเนื่องของภาคเกษตรและการท่องเที่ยว สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจทุกภูมิภาคยังอยู่ในเกณฑ์ดี" โดยมีรายละเอียด สรุปได้ดังนี้
ภาคใต้ เศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 2.5 สอดคล้องกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งและยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 9.5 และ 28.4 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าเกษตร และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดรถปิคอัพจดทะเบียนใหม่และเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม โดยในเดือนมีนาคม ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 41.0 และ 58.8 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 15.8 และ 70.7 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนที่ร้อยละ 3.2 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี ตามการขยายตัวของทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทน จากยอดรถยนต์นั่งและยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 และ 3.6 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดรถปิคอัพจดทะเบียนใหม่และเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 6.9 และ 105.7 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 0.9 และ 40.4 ต่อปี ตามลำดับ สำหรับด้านอุปทาน ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ในอัตราเร่ง ทั้งจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือน โดยขยายตัวที่ร้อยละ 13.1 และ 13.9 ต่อปี ตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 16.4 และ 18.0 ต่อปี ตามลำดับ ตามการขยายตัวของทั้งจำนวนและรายได้ของนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สอดคล้องกับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.3 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
กทม.และปริมณฑล เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 0.8 เช่นเดียวกันกับการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนที่กลับมาขยายตัวเช่นกัน สะท้อนจากยอดรถยนต์นั่งขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 7.7 ต่อปี ตามการขยายตัวในเกือบทุกจังหวัด โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้เกษตรกร และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่และเงินลงทุนในโรงงานอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคมที่ขยายตัวร้อยละ 8.1 และ 21.8 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 4.7 และ 35.7 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านอุปทาน ภาคเกษตร ขยายตัวต่อเนื่อง จากผลผลิตสำคัญ อาทิ ข้าว และข้าวโพด เป็นต้น สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรม ที่ส่งสัญญาณปรับตัวปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.7 ส่วนด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.8 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันออก เศรษฐกิจขยายตัว โดยมีการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัวร้อยละ 16.6 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 17.6 ต่อปี สำหรับการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวร้อยละ 23.4 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 10.7 ต่อปี สอดคล้องกับการลงทุนภาครัฐในภูมิภาคที่ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ที่ขยายตัวร้อยละ 11.4 ต่อปี ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 11.2 ต่อปี สำหรับด้านอุปทาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวขยายตัวในเกณฑ์ดีทั้งจำนวนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนที่ร้อยละ 7.9 และ 9.1 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ร้อยละ 11.6 และ 14.9 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 104.1 ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคกลาง เศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการบริโภค การลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยวเป็นหลัก สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนในหมวดสินค้าคงทนของผู้มีรายได้น้อย จากยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวในเกณฑ์ดีที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 2.2 ต่อปี สอดคล้องกับการลงทุนภาคเอกชนที่ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากยอดรถปิคอัพและรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ที่ขยายตัวร้อยละ 21.2 ต่อปี และ 1.0 ต่อปี ตามลำดับ เช่นเดียวกันกับรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลในภูมิภาคในเดือนมีนาคมขยายตัวที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวภายในภูมิภาค สำหรับด้านอุปทานขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาคการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนที่ร้อยละ 1.1 และ 2.3 ต่อปี ตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.8 และ 3.2 ต่อปี ตามลำดับ สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นของภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.7 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ร้อยละ 1.7 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคเหนือ เศรษฐกิจยังคงทรงตัว อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยวยังเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 ต่อปี ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 0.04 ส่วนด้านอุปทาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนที่ร้อยละ 1.6 และ 7.5 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.1 และ 5.5 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 ที่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ภาคตะวันตก เศรษฐกิจยังทรงตัว อย่างไรก็ดี การลงทุนและภาคการท่องเที่ยวยังเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ สะท้อนจากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปสงค์ โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม ขยายตัวร้อยละ 17.7 ต่อปี ตามการขยายตัวในหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี เช่นเดียวกันกับรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลในภูมิภาคในเดือนมีนาคม ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 12.8 ต่อปี ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวภายในภูมิภาค ส่วนด้านอุปทาน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีทั้งจำนวนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนที่ร้อยละ 9.3 และ 18.6 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ขยายตัวที่ร้อยละ 10.9 และ 23.4 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม (เบื้องต้น) 2560 ที่ยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี และอัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของกำลังแรงงานรวมของภูมิภาค
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit