นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobpol, Head of Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit: TISCO ESU) กล่าวว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกที่จัดขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. และนำผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดสองอันดับแรกไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกันในการเลือกตั้งรอบที่ 2 ในวันที่ 7 พ.ค. นี้ โพลล่าสุดชี้ว่านาย Emmauel Macron ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ ที่มีนโยบายที่ค่อนข้างเป็นบวกกับตลาดและเป็นมิตรกับสหภาพยุโรป ยังมีคะแนนนำและมีโอกาสสูงสุดที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์ซึ่งเป็นบวกมากที่สุดต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพของสหภาพยุโรป
ส่วนนาง Marine Le Pen ซึ่งชูนโยบายการเลิกใช้เงินสกุลยูโรเป็นนโยบายหลักด้านเศรษฐกิจและประกาศจะจัดทำประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรปหากชนะการเลือกตั้ง มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้าไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งรอบที่ 2 แต่ ผลสำรวจความนิยมแบบ Head-to-head ในการเลือกตั้งในรอบที่ 2 ยังคงชี้ว่านาง Le Pen ยังมีคะแนนตามหลังผู้สมัครหลักรายอื่นๆ อยู่ค่อนข้างห่าง และจะน่าจะมีโอกาสน้อยที่จะชนะการเลือกตั้ง
ส่วนผู้สมัครอีกคนซึ่งสร้างความกังวลให้กับตลาดในช่วงหลังได้แก่ นาย Jean-Luc Melenchon ตัวแทนพรรคฝ่ายซ้ายจัด และมีนโยบายเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อฐานะทางการคลังของฝรั่งเศสในอนาคต โดยนาย Melechon มีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังการโต้วาทีในช่วงปลายเดือน มี.ค.และมีโอกาสมากขึ้นที่จะผ่านเข้าไปในการเลือกตั้งรอบที่สอง ซึ่งตลาดมองเป็นความเสี่ยงว่าการเลือกตั้งรอบที่ 2 อาจเป็นการชิงตำแหน่งกันระหว่างนาง Marine Le Penซึ่งเป็นฝ่ายขวาจัด และนาย Melenchon ซึ่งเป็นซ้ายจัด ซึ่งเป็นผู้สมัครที่มีนโยบายแบบสุดโต่งทั้งคู่
เรายังคงมองว่านาย Macron มีโอกาสสูงสุดที่จะชนะการเลือกตั้งประธานธิบดี ซึ่งตลาดน่าจะตอบรับในเชิงบวก อย่างไรก็ดี โพลล่าสุดยังมีความใกล้เคียงกันและยังมีโอกาสที่จะพลิกล็อกได้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในช่วงหลัง เราจึงยังแนะนำให้ลงทุนด้วยความระมัดระวังและถือเงินสดบางส่วนเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit