เป้าหมายสำคัญของการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ มุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันทางการตลาดของสินค้า ซึ่งในการดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้ประสบผลสำเร็จได้ตามเป้าหมายนั้น ต้องอาศัยการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง นำระบบสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรลดลง ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพและยังเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองให้แก่เกษตรกรด้วย ขณะนี้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่และลงพื้นที่เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการและสมาชิกสหกรณ์ ถึงประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับจากการเข้าร่วมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ และอยู่การเสนอรายชื่อเป้าหมายกลับเข้ามายังส่วนกลาง เพื่อจะได้วางแผนในการเข้าไปให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆโดยจะบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดับพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานภายนอกตามแนวทางประชารัฐ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการที่จะเข้ามาสนับสนุนด้านการพัฒนาการผลิต การแปรรูปไปจนถึงการจัดหาตลาดมารองรับผลผลิตจากพื้นที่แปลงใหญ่ที่สหกรณ์จะเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสมาชิกตั้งแต่กระบวนการปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การรวบรวมผลผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการจัดจำหน่ายสู่ตลาด
สำหรับจังหวัดราชบุรี เกษตรกรในอำเภอดำเนินสะดวกจะยึดอาชีพปลูกองุ่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่อยู่คู่กับอำเภอดำเนินสะดวกมายาวนานนับร้อยปี จนถือได้ว่าเป็นผลไม้ประจำพื้นที่และมีความเอกลักษณ์ของอำเภอดำเนินสะดวก ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ได้มีการสืบทอดการปลูกแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงเทคนิคการเพาะปลูก ที่สืบทอดมาอย่างต่อเนื่องรุ่นต่อรุ่น โดยส่วนใหญ่จะปลูกพันธุ์ไวท์มะละกา มีผลยาว ลักษณะช่อใหญ่ยาว การติดผลดีผลมีสีเหลืองอมเขียว รสหวานแหลม เปลือกหนาและเหนียว ในผลหนึ่งๆ มี 1-2 เมล็ด ช่วงเวลาหลังจากตัดแต่งกิ่งจนเก็บผลได้อยู่ที่ประมาณ 4 เดือนครึ่ง ปีหนึ่งให้ผลผลิต 2 ครั้ง ผลผลิตประมาณ 10-15 กิโลกรัมต่อต้นต่อครั้ง
ที่ผ่านมาสามารถให้ผลผลิตได้ดี แต่เกษตรกรมักจะขายด้วยระบบการเหมาไร่ จากพ่อค้าคนกลาง ทำให้ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรบางรายหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตองุ่นในอำเภอดำเนินสะดวกลดลงจนอาจจะสูญหายไปในอนาคตได้ ดังนั้น เพื่อให้องุ่นดำเนินสะดวก ยังคงมีอยู่คู่กับอำเภอดำเนินสะดวกและให้เกษตรกรผู้ปลูกได้รับราคาที่เป็นธรรมในการจำหน่ายต่อไปทางด้านนายสุรินทร์ วทัญญู สหกรณ์จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดราชบุรี เข้าไปทำความเข้าใจแก่สมาชิกสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกันเป็นแปลงใหญ่ ตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด ก็เป็นอีกสหกรณ์หนึ่งที่ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเข้าไปสนับสนุนและพัฒนาให้เกษตรกรผู้ปลูกองุ่นดำเนินสะดวกรวมกลุ่มกันและทำการเกษตรเป็นแปลงใหญ่
ซึ่งในเบื้องต้นทางคณะกรรมการสหกรณ์ได้ให้ความสนใจและลงมติเห็นชอบที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว เนื่องจากการรวมกันเป็นแปลงใหญ่จะทำให้เกษตรกรสามารถที่จะบริหาร การจัดการในภาพรวมของตัวผลผลิต ได้ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ต้นทางก็คือในเรื่องของตัวปัจจัยการผลิตต่างๆ นับตั้งแต่ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช สหกรณ์ก็สามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกได้ ในด้านการบริหารการจัดการก็มีทีมนักวิชาการจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำกับเกษตรกรในการวางแผนการผลิต ตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพดินและการดูแลรักษาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพภายใต้แนวทางการบูรณาการในภาพรวมทั้งหมดของแปลงใหญ่
นายยุทธพงค์ โล่เกียรติคุณ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด กล่าวว่า เกษตรกรที่ปลูกองุ่นได้มีการรวมกลุ่มกันแล้วจัดตั้งเป็นสหกรณ์ขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการองุ่นเป็นไปตามขบวนการสหกรณ์ คือ มีการร่วมกันคิดเพื่อปรับปรุงพัฒนาขบวนการผลิต ตลอดถึงการจำหน่าย โดยมีสหกรณ์จังหวัดราชบุรีให้การสนับสนุน ยังผลให้การผลิตองุ่นของจังหวัดราชบุรีในปัจจุบันสามารถ เพาะปลูกองุ่นที่มีผลิตผลดีเยี่ยม หวานกรอบอร่อย และมีชื่อเสียงในจังหวัดราชบุรี มากยิ่งขึ้น
"สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด อยากจะอนุรักษ์พื้นที่การปลูกองุ่นในอำเภอดำเนินสะดวกให้คงอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรี จึงมีความสนใจที่จะนำระบบการผลิตแปลงใหญ่เข้ามาจัดการผลผลิตและพื้นที่ปลูกองุ่นของสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้ได้เชิญชวนสมาชิกสหกรณ์ที่ปลูกองุ่นทั้งหมดมาเข้าร่วมโครงการจัดทำแปลงใหญ่ผู้ปลูกองุ่นราชบุรีแล้ว โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้เกษตรกรได้มีความมั่นคงและยังคงยึดอาชีพทำสวนองุ่นดำเนินสะดวกไว้ได้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน และคิดว่าโครงการแปลงใหญ่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวสวนองุ่นได้ เพราะเกษตรกรยังทำการเกษตรแบบเดิม คือ ต่างคนต่างปลูก ต่างคนต่างขาย ก็จะไม่มีอำนาจในการต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง แต่ถ้าเป็นแปลงใหญ่แบบสหกรณ์ ก็จะสามารถวางแผนการผลิตได้ว่าจะให้ผลผลิตออกมาในช่วงฤดูไหน เพื่อจะให้สามารถขายได้ราคาดี และยังสามารถรวบรวมผลผลิตสร้างอำนาจต่อรองกับตลาดได้ ซึ่งทางสหกรณ์ได้วางแผนที่จะเจรจาขยายผลผลิตให้กับห้างโมเดิร์นเทรด โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเตรียมการ โดยมีสมาชิกผู้ปลูกองุ่น ประมาณ 30-40 ราย พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 300 ไร่ เข้าร่วมโครงการ "นายยุทธพงค์ โล่เกียรติคุณ กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit