น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเปิดเผยรายละเอียดมาตรการปฏิรูปภาษีในวันนี้ (26 เม.ย.) รวมถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกนายเอมมานูเอล มาครองได้คะแนนอันดับหนึ่ง 23.87% ทำให้ความกังวลเรื่องฝรั่งเศสจะออกจากยูโรโซนลดน้อยลง และตัวเลขการส่งออกในเดือนมีนาคม 60 ขยายตัว 9.2% ส่งผลไตรมาส 1/2560 โต 4.9% สูงสุดในรอบ 4 ปีทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกทั้งปีมีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดันมาจากหลังประกาศงบไตรมาส 1/2560 พบว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) กลุ่มธนาคารทะลุ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5% จากไตรมาสก่อนจากภาวะเศรษฐกิจโตช้ากระทบความสามารถชำระหนี้ของลูกค้า SME ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และขายหุ้นธนาคารลดความเสี่ยง รวมทั้งความไม่แน่นอนในซีเรียและคาบสมุทรเกาหลีที่อาจเกิดความรุนแรงส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 26-27 เม.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 27 เม.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน วันที่ 28 เม.ย. สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เปิดเผยตัวเลข GDP Q1/60 และในวันที่ 2-3 พ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมครั้งนี้
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากประธานาธิบดีทรัมป์ เตรียมเปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีในเร็วๆนี้ รวมถึงตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามความกังวลปัญหา NPL กลุ่มธนาคารที่พุ่งขึ้นเป็นแรงกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,540 - 1,575 จุด
ทั้งนี้แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่ากำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต แนะนำ PTTEP, PTTGC, TOP, BANPU และWICE รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีของสหรัฐเนื่องจากมีโรงงานตั้งอยู่ในสหรัฐ แนะนำ IVL และ EPG
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า โพลล์สำรวจการเลือกตั้งรอบสองของฝรั่งเศสประเมินว่านายเอ็มมานูเอล มาครอง จะได้เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการลดโอกาสที่จะเกิด Frexit ไปจนแทบจะเป็นศูนย์ ส่วน Brexit คาดว่าจะราบรื่นขึ้นหลังการเลือกตั้งที่จะได้พรรครัฐบาลเดิมกลับมาสานงานต่อ ทำให้ความเสี่ยงของยูโรโซนในช่วงนี้เหลือเพียงเรื่องหนี้กรีซที่กำลังจะมีการเจรจาขอเงินช่วยเหลือรอบใหม่
ขณะที่ฝั่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นและภาคธุรกิจในสหรัฐฯ หากมีผลตอบรับดี คาดว่าจะมีการนำเสนอแผนอเมริกันเฮลธ์แคร์ออกมา
ทั้งนี้ ราคาทองคำจึงถูกกดดันจากตลาดหลักใน 2 ภูมิภาคสำคัญของโลก แต่กองทุน SPDR ไม่มีการปรับพอร์ตมาตลอด 2 สัปดาห์ และ Commitments of Traders (COT) รายงานการเพิ่มสถานะอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนฝั่ง speculators สอดคล้องกับภาพทางเทคนิคที่มีแนวรับหนุนที่บริเวณ 1,260 ดอลลาร์ จึงมองการพักตัวของราคาในกรอบจำกัด โดยแนะนำให้เล่น swing trade และฝั่ง longควร cut loss เมื่อราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit