เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560 นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย(PUBAT) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสรุปงาน "สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15" (45th National Book Fair and 15th Bangkok International Book Fair 2017) ซึ่งมีสำนักพิมพ์ไทยเข้าร่วมงานกว่า 430 แห่ง และได้รับเกียรติจาก "ประเทศฟินแลนด์" เข้าร่วมงานในฐานะ ประเทศรับเชิญเกียรติยศ (Guest of Honor) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการประกาศเอกราชประเทศฟินแลนด์ และจัดขึ้นจนถึงวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด "อ่าน อ่าน และอ่าน" ว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายที่ตั้งไว้ เพราะมีผู้เข้าร่วมชมงานถึง 1,800,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน รองลงมาคือวัยทำงาน และแนวหนังสือที่มาแรงในครั้งนี้คือแนวไลท์โนเวล ความรู้เชิงประวัติศาสตร์ และโค้ชชิ่ง
"ในงานสัปดาห์หนังสือฯครั้งนี้ มีหลายสำนักพิมพ์ที่หนังสือขายหมดระหว่างงานจนต้องสั่งพิมพ์เพิ่ม นอกจากหนังสือนวนิยายที่เป็นตลาดใหญ่สุดในธุรกิจหนังสือแล้ว ยังมีอีกหลายประเภทที่มาแรงอย่างน่าสนใจ คือหนังสือประเภทไลท์โนเวลซึ่งเป็นนิยายวัยรุ่นพร้อมภาพประกอบที่แปลมาจากประเทศญี่ปุ่นก็ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนอย่างมาก รวมถึงความรู้แนวประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับประเทศจีนก็ได้รับความสนใจจากนักอ่านผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะคนอ่านหนังสือต้องการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวกับประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้น ส่วนความนิยมในหนังสือโค้ชชิ่งนั้น คาดว่าน่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากความนิยมเรื่องของการโค้ชชิ่งเพื่อพัฒนาและค้นหาศักยภาพของชีวิต"
นายจรัญยังกล่าวอีกด้วยว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะค่อนข้างชะลอตัว ในงานสัปดาห์หนังสือฯมีหนังสือออกใหม่ประมาณ 350 ปก แต่สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่พอใจกับยอดขายหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือฯครั้งนี้ จากสภาวะปัจจุบันคาดว่าในอนาคตการทำหนังสือจะเป็นธุรกิจที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
"จากสภาวะการอ่านที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงประกอบสภาวะเศรษฐกิจ นี่คือยุคสมัยที่คนทำหนังสือหรือสำนักพิมพ์จะต้องทำการบ้านมากขึ้น ต้องรู้ว่าผู้บริโภคต้องการหนังสือประเภทใดหรือมีพฤติกรรมการเลือกซื้ออย่างไร และเลือกทำในสิ่งที่ตนถนัดเพื่อสร้างจุดแข็งให้แก่ตนเอง หนังสือที่เป็นกระดาษยังอยู่ได้ โดยมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาไม่ได้เป็นปัจจัยตัดสินใจหลักในการตัดสินใจซื้ออีกต่อไป กลุ่มคนอ่านหนังสือถือว่าเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่นและซื่อตรงต่อสินค้ามาก ซึ่งถือว่าเป็นผลดีสำหรับคนทำธุรกิจสำนักพิมพ์
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณผู้เข้าชมงานทุกท่านที่สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ เป็นกำลังใจที่สำคัญให้กับพวกเราเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมการอ่านนั้น เล็งเห็นว่าหนังสือและการอ่านถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างประเทศอย่างมั่นคง และนำไปสู่การพัฒนาในทิศทาง "ไทยแลนด์ 4.0" ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะการอ่านสามารถสร้างคนที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของการที่จะพัฒนาประเทศในทิศทางต่างๆให้เกิดขึ้นได้
พบกันใหม่ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 22 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ครับ" นายจรัญกล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit