พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี คล้ายวันก่อตั้ง
กลุ่มเกษตรกร พร้อมด้วยการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "นโยบายการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มเกษตรกรสู่ความเข้มแข็ง" ณ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ว่า รัฐบาลโดย
กระทรวงเกษตรฯ มุ่งหวังเห็น
เกษตรกรไทย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้และอาชีพที่มีความมั่นคง และสามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ด้วยอาชีพเกษตรกรด้วยการเดินหน้าพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการผลิตสินค้าทางการเกษตร ซึ่งกลุ่มเกษตรกร เป็นสถาบันที่มีบทบาทที่สำคัญในการช่วยส่งเสริมกิจกรรมภาคการเกษตรและสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรไทย เพื่อเป็นฐานรากที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ภาคการเกษตรจะต้องปรับเปลี่ยนจากการกระทำเกษตรแบบดั้งเดิมก้าวสู่การเป็น Smart Farmer มีการนำนวัตกรรม งานวิจัย และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของภาครัฐให้เป็น Smart Officer มีความรู้ความสามารถในงานที่ทำอย่างแท้จริง ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรเกิดความมั่นคงทางรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และภาคการเกษตรของไทย สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ในการดำรงชีวิตกระทรวงเกษตรฯ ยังเน้นย้ำให้เกษตรกรน้อมนำแนวทางปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์ของพระราชา การทำ
เกษตรทฤษฏีใหม่ไปเป็นแนวทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินชีวิตและการผลิตภาคเกษตร
ด้าน ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศรวม 4,097 กลุ่ม สมาชิก 436,845 คน มีปริมาณธุรกิจรวม 3,219.89 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มเกษตรกรทำนา กลุ่มเกษตรกรทำไร่ กลุ่มเกษตรกรทำสวน กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ กลุ่มเกษตรกรทำประมง และกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ เป็นต้น โดยเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ คิดเป็นร้อยละ 84.38 ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนดมาตรฐานกลุ่มเกษตรกรขึ้น เพื่อเป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานในการชี้วัดผลการดำเนินงานของกลุ่ม และพัฒนากลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการดำเนินงาน
สำหรับการจัดงาน "เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี คล้ายวันก่อตั้งกลุ่มเกษตรกร" กรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 โดยมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย คณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และข้าราชการประจำสำนักงานสหกรณ์จังหวัด รวม 400 คน โดยการจัดงานกำหนดให้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การจัดสัมมนาทางวิชาการ การจัดพิธีทางศาสนา การจัดนิทรรศการ และจัดแสดงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกร